xs
xsm
sm
md
lg

สร.รฟท.หาดใหญ่แจงเหตุไม่เปิดเดินรถในพื้นที่เสี่ยงภัยหลังประชุมเจรจาล้มเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไม่สามารถเปิดเดินรถในพื้นที่เสี่ยงภัย หลังมีการประชุมเจรจากับผู้แทนการรถไฟฯ ล้มเหลว พร้อมยืนยันกับพี่น้องประชาชนและพนักงานรถไฟให้ต่อสู้ดำเนินการตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อให้บริการกับประชาชนโดยยึดความปลอดภัยเป็นสำคัญ

วันนี้ (26 ต.ค.) จากเหตุปัญหากรณีความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ที่เป็นปัญหาที่ยังหาข้อยุติไม่ได้นั้นเมื่อวานนี้ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ จึงออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไม่สามารถเปิดเดินรถในพื้นที่เสี่ยงภัย

ตามที่ได้มีการประชุมเจรจาระหว่างผู้แทนการรถไฟฯกับทาง สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ เมื่อวันที่24 ตุลาคม ซึ่งใช้เวลาเจรจาถึง 8 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้เพราะผู้แทนเจรจาของการรถไฟฯ ไม่มีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจ แสดงถึงความไม่จริงใจของฝ่ายบริหารการรถไฟฯ จนไม่สามารถเปิดเดินขบวนรถในพื้นที่เสี่ยงภัยได้

โดยสืบเนื่องจากการปล่อยปละละเลย ไม่ปฎิบัติตามข้อตกลงที่ทำกันไว้กับ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ และล้มเหลวในการบริหารจัดการอย่างสิ้นเชิง และยังมีการพยายามบังคับใช้มาตรการต่างๆ ข่มขู่พนักงานทั้งการให้ข่าวกับสื่อมวลชนที่เป็นเท็จ และไม่ดำเนินการตามคดีใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่กัดกินรถไฟมาตลอด เพื่อให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งต่อไป

ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินรถก็ได้มีการสะท้อนถึงข้อบกพร่องออกมาในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของรถจักรทั้งระบบ และปัญหาของระบบการป้องกันพนักงานขับรถหมดสติ (Vigilance) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องมีตามมาตราฐานสากล ที่สามารถป้องกันเหตุอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเดินรถ ทั้งนี้ การรถไฟฯ เคยได้ตกลงกับสหภาพรถไฟฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552 โดยตกลงจะจัดการซ่อมอุปกรณ์ต่างๆบนรถจักร รถพ่วง รถโดยสารให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนนำไปออกขบวน

อย่างไรก็ตาม สร.รฟท.มีเจตนาที่สุจริตต้องการให้มีการปรับปรุงเพื่อให้การรถไฟฯมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินรถมากยิ่งขิ้นพร้อมยืนยันกับพี่น้องประชาชนและพนักงานรถไฟให้ต่อสู้ดำเนินการตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆเพื่อให้บริการกับประชาชนโดยยึดความปลอดภัยเป็นสำคัญ



กำลังโหลดความคิดเห็น