พัทลุง - ชาวบ้าน 4 อำเภอ กว่า 50 คนบุกศาลากลางจังหวัดพัทลุง ถือป้ายประท้วงคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ พร้อมกับเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางหลังใหม่จังหวัดพัทลุง นายพรหมเนตร บาลทิพย์ แกนนำ พร้อมชาวบ้านจาก 4 อำเภอ เช่น อำเภอป่าพะยอม อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน และอำเภอเมืองพัทลุง กว่า 50 คน ถือป้ายประท้วงการทำงานของรัฐบาล และได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กรณีการดำเนินโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ (รัฐเอื้อราษฎร์) 1 ล้านไร่ ล่าช้า พร้อมกับเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หากมิเช่นนั้นจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล
นายพรหมเนตร บาลทิพย์ อายุ 49 ปี ประธานศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.5 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง กล่าวว่า ในฐานะประชาชนขอแสดงสิทธิ์ขอเช่าที่ดินราชพัสดุตามโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ (รัฐเอื้อราษฎร์) 1 ล้านไร่ ในแปลงหมายเลขที่ พ.ท.28 จำนวน 1,432 ไร่ ตั้งอยู่ที่ สถานีทดลองข้าว บ้านควนกุฎ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง
และแปลงหมายเลขที่ พ.ท.239 จำนวน 2,011 ไร่ ตั้งอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง บ้านควนกุฎ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง รวมเนื้อที่จำนวน 3,443 ไร่ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มีหนังสือแจ้งให้ธนารักษ์พัทลุงนำเป็นแนวทางปฏิบัติไว้ชั้นหนึ่งแล้ว มาพิจารณาดำเนินการขอคืนจากกรมวิชาการเกษตรและกรมอาชีวศึกษา เพื่อนำมาให้ประชาชนที่ยากจนทำเกษตรกรรมตามมติคณะรัฐมนตรี
นายพรหมเนตรยังกล่าวอีกว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้กระทรวงการคลัง ทำโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ มาให้เกษตรกรเช่าทำเกษตรกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและที่ดินทำกินแบบบูรณาการนั้น ซึ่งทางศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง เห็นว่า เป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนและที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรได้ในระดับที่น่าพอใจ
หากว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่นำสิ่งที่ชาวบ้านไม่มีปัญญาจะพิสูจน์ได้ มาใช้โฆษณาหาเสียงไปวันๆ เท่านั้น ตนและชาวบ้านในนามศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและจังหวัดพัทลุง สำนึกในภาระหน้า และรับผิดชอบต่อสัจจะวาจาที่ประกาศไว้ เร่งรัดนำโครงการนี้มาปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงเป็นรูปธรรมโดยเร็ว หากไม่เช่นนั้นตนจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อไป
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางหลังใหม่จังหวัดพัทลุง นายพรหมเนตร บาลทิพย์ แกนนำ พร้อมชาวบ้านจาก 4 อำเภอ เช่น อำเภอป่าพะยอม อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน และอำเภอเมืองพัทลุง กว่า 50 คน ถือป้ายประท้วงการทำงานของรัฐบาล และได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กรณีการดำเนินโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ (รัฐเอื้อราษฎร์) 1 ล้านไร่ ล่าช้า พร้อมกับเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด หากมิเช่นนั้นจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล
นายพรหมเนตร บาลทิพย์ อายุ 49 ปี ประธานศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.5 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง กล่าวว่า ในฐานะประชาชนขอแสดงสิทธิ์ขอเช่าที่ดินราชพัสดุตามโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ (รัฐเอื้อราษฎร์) 1 ล้านไร่ ในแปลงหมายเลขที่ พ.ท.28 จำนวน 1,432 ไร่ ตั้งอยู่ที่ สถานีทดลองข้าว บ้านควนกุฎ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง
และแปลงหมายเลขที่ พ.ท.239 จำนวน 2,011 ไร่ ตั้งอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง บ้านควนกุฎ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง รวมเนื้อที่จำนวน 3,443 ไร่ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มีหนังสือแจ้งให้ธนารักษ์พัทลุงนำเป็นแนวทางปฏิบัติไว้ชั้นหนึ่งแล้ว มาพิจารณาดำเนินการขอคืนจากกรมวิชาการเกษตรและกรมอาชีวศึกษา เพื่อนำมาให้ประชาชนที่ยากจนทำเกษตรกรรมตามมติคณะรัฐมนตรี
นายพรหมเนตรยังกล่าวอีกว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้กระทรวงการคลัง ทำโครงการขอคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ มาให้เกษตรกรเช่าทำเกษตรกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและที่ดินทำกินแบบบูรณาการนั้น ซึ่งทางศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง เห็นว่า เป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนและที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรได้ในระดับที่น่าพอใจ
หากว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่นำสิ่งที่ชาวบ้านไม่มีปัญญาจะพิสูจน์ได้ มาใช้โฆษณาหาเสียงไปวันๆ เท่านั้น ตนและชาวบ้านในนามศูนย์ประสานงานราษฎรยากจนจังหวัดพัทลุง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและจังหวัดพัทลุง สำนึกในภาระหน้า และรับผิดชอบต่อสัจจะวาจาที่ประกาศไว้ เร่งรัดนำโครงการนี้มาปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงเป็นรูปธรรมโดยเร็ว หากไม่เช่นนั้นตนจะยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อไป
