พัทลุงผุดธนาคารกุ้งก้ามกรามเฝ้าอนุบาลก่อนปล่อยทะเลสาบ

พัทลุง - ท้องถิ่นรับลูกตั้งธนาคารกุ้งก้ามกราม เพื่อเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเลสาบ เพื่อเพิ่มปริมาณกุ้งในทะเลสาบสงขลา สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน คาดใช้งบดำเนินการประมาณ 3 ล้านบาท

ตำบลเกาะหมาก อ.ปากพะยูน เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีเกาะสี่ เกาะห้า แหล่งสัมปทานรังนกของจังหวัดพัทลุงอยู่ในเขตความรับผิดชอบ ที่สร้างรายได้ให้จังหวัด และ อบต.เกาะหมาก ปีละนับร้อยล้านบาท และตอนนี้ ทางอบต.เกาะหมากเตรียมตั้ง ธนาคารกุ้งก้ามกราม ให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้ให้ชาวประมงในพื้นที่

นายประดิษฐ์ จริยะ นายก อบต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง กล่าวว่า ตำบลเกาะหมากมีสภาพพื้นที่ราบเชิงเขาติดทะเลสาบสงขลา มีประชากรประมาณ 7,006 คน มีอาชีพและรายได้หลักมาจากการทำประมงจับสัตว์น้ำขาย และสัตว์น้ำที่จับขายสร้างรายได้ราคาสูงกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ คือกุ้งก้ามกราม เพราะกุ้งก้ามกรามจากทะเลสาบแห่งนี้ จะมีเนื้อแน่นรสชาติหวาน โดยจะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 150-300 บาท ซึ่งหากชาวประมงสามารถจับกุ้งก้ามกรามได้เพียง 4-10 ตัว ก็จะขายได้ราคา 300-500 บาท

ด้วยเหตุนี้ทาง อบต.เกาะหมาก ร่วมกับสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เตรียมจัดตั้งธนาคารกุ้งก้ามกราม เพื่อเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเลสาบ เพื่อเพิ่มปริมาณกุ้งก้ามกราม ในทะเลสาบ ให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ที่สร้างรายได้ให้กับชาวประมงในพื้นที่ พร้อมกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยไม่ต้องเลิกประกอบอาชีพประมง หรือออกไปหางานทำต่างถิ่น

โดยสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการในการจัดสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม อุปกรณ์ และการอบรม ฝึกสอนให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ส่วนอบต. จะเป็นผู้จัดหาสถานที่ก่อสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยง ซึ่งทาง อบต.เลือกพื้นที่หมูที่ 2 ติดกับหน่วยพิทักษ์ป่าอ่าวท่ายางเป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยง

นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้โครงการธนาคารกุ้งก้ามกรามอยู่ระหว่างรองบประมาณจากสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเมื่อสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวน 3 ล้านบาทในการก่อสร้าง หลังจากธนาคารกุ้งก้ามกรามสร้างแล้วเสร็จจะทำหน้าที่จะรับซื้อแม่กุ้งที่มีไข่จากชาวประมงมาเพาะเลี้ยง อนุบาล และปล่อยลงสู่ทะเลสาบ เพื่อเพิ่มจำนวนกุ้งก้ามกรามในทะเลสาบ ให้มีอยู่ยังยั่งยืน

นอกจากจะเป็นธนาคารกุ้งก้ามกรามแล้ว ทางอบต.หวังว่าที่นี่จะเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูวิธีการเลี้ยงกุ้ง และสร้างแนวคิดที่เกิดจาการสร้างจิตสำนึกของชุมชนในการอนุรักษ์ หวงแหน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุมค่า และร่วมกับอนุรักษ์สัตว์น้ำในทะเลสาบให้คงอยู่ต่อไป

ด้านนายยงยุทธ ปรีดาลัมพะบุตร นักวิชการ 8 สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เปิดเผยว่า ชาวประมงในพื้นที่บริเวณทะเลสาบสงขลา ได้เริ่มให้ความสนใจในการถดถอยลงของกุ้งก้ามกราม ที่เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวเด่นบริเวณทะเลสาบสงขลา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของกุ้ง จึงได้มีแนวคิดในการจัดตั้งธนาคารกุ้งก้ามกรามขึ้น ของบรรดาชุมชน ทั้งนี้เพื่อการอนุรักษ์ และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ทางสถาบันจึงได้ร่วมหารือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่บริเวณทะเลสาบสงขลา เพื่อจัดทำของบประมาณ และโครงการธนาคารกุ้ง วัตถุประสงค์ของธนาคาร เพื่อผลิตกุ้งปล่อยลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยมีการจัดสร้างโรงเพาะ และอุปกรณ์ ส่วนองค์การบริหารส่วนตำบล จะเป็นผู้จัดหาสถานที่ก่อสร้าง งบประมาณในการบริหารจัดการ โดยใช้งบประมาณ 9 ล้านบาท

ขณะนี้เบื้องต้น มีผู้ร่วมงานโครงการธนาคารกุ้ง ฃมี อบต.คลองรี อบต.คูขุด อบต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลาและ อบต.เกาะนางคำ อบต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง พร้อมกับ 15 ชุมชน โดยในปี 2552 ทางสถาบันได้มีการปล่อยกุ้งไปแล้ว จำนวน 60 ล้านตัว