พัทลุง - ผู้ปกครองร้องเรียนต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพัทลุง โดยอ้างว่า บุตรสาวอายุ 10 ขวบ ถูกแม่ชีสำนักพุทธสถานธรรม ล้างสมองจนไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมเผยสำนักดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง
วันนี้ (9 ต.ค.) ร.อ.จรัล ขาคำ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/3 ม.3 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พร้อม นางจุรี ขาคำ อายุ 41 ปี พร้อมแม่ชีกัญญภักดิ์ พรมาตรตรี อายุ 50 ปี เจ้าของสำนักพุทธสถานธรรม ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 180 ม.9 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ได้นำ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) อายุ 11 ปี บุตรสาว ร.อ.จรัล เข้าร้องทุกข์ต่อ นางสาวสุธีรา นุ้ยจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง
โดยทางด้าน ร.อ.จรัล กล่าวหาว่า แม่ชีกัญญภักดิ์ ได้พูดจาโน้มน้าวและให้การสั่งสอนที่ผิดแนวทางตามแนวพระพุทธศาสนา จนทำให้ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) บุตรสาวของตนไม่ยอมกลับบ้าน
ร.อ.จรัล เผยว่า ตนพร้อมภรรยา และบุตร 3 คน ได้เข้ามาปฏิบัติธรรมในสำนักดังกล่าวมาปีเศษ โดยตนได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวในการบำรุงและพัฒนาสำนักดังกล่าวด้วย แต่ต่อมาตนและครอบครัวเห็นว่าในสำนักดังกล่าวนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง อาทิ การเก็บรักษาเงินบริจาค การอบรมสั่งสอนเด็กที่ผิดแปลกแหวกแนวไปจากตามหลักธรรมพระพุทธศาสนา จึงได้พาภรรยา บุตร 2 คนกลับบ้านเดิมโดยฝาก ด.ญ.แดง (นามสมมติ) ไว้กับสำนักพุทธสถานธรรม
เนื่องจากโรงเรียนยังไม่ปิดเทอม และเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ตนเดินทางมารับ ด.ญ.แดง กลับบ้าน แต่ปรากฏว่า ด.ญ.แดง ไม่ยอมกลับ โดยอ้างว่าการอยู่รวมกับพ่อแม่เป็นกรรม และเป็นการสร้างภาระให้พ่อแม่ ตนจึงนำความเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง แต่ทางตำรวจไม่สามารถจัดการได้เนื่องจากเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงแนะนำให้เข้าร้องทุกข์ต่อ สนง.พัฒนาสังคมฯดังกล่าว
ทางด้าน แม่ชีกัญญภักดิ์ เจ้าของสำนักพุทธสถานธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ล้างสมองเด็กและให้การอบรมเด็กที่ผิดแปลกแต่อย่างใด เด็กจะอยู่หรือไม่มิใช่เป็นหน้าที่ของตนที่จะไปพูดกับเด็ก แต่เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะพูดให้ลูกกลับบ้าน เด็กจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่หรือไม่เป็นเรื่องของเด็กตนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่หากเด็กอยู่กับตนตนก็จะให้การดูแลเลี้ยงดู และให้การอบรมสั่งสอนตามปกติ
วันนี้ (9 ต.ค.) ร.อ.จรัล ขาคำ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/3 ม.3 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พร้อม นางจุรี ขาคำ อายุ 41 ปี พร้อมแม่ชีกัญญภักดิ์ พรมาตรตรี อายุ 50 ปี เจ้าของสำนักพุทธสถานธรรม ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 180 ม.9 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ได้นำ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) อายุ 11 ปี บุตรสาว ร.อ.จรัล เข้าร้องทุกข์ต่อ นางสาวสุธีรา นุ้ยจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง
โดยทางด้าน ร.อ.จรัล กล่าวหาว่า แม่ชีกัญญภักดิ์ ได้พูดจาโน้มน้าวและให้การสั่งสอนที่ผิดแนวทางตามแนวพระพุทธศาสนา จนทำให้ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) บุตรสาวของตนไม่ยอมกลับบ้าน
ร.อ.จรัล เผยว่า ตนพร้อมภรรยา และบุตร 3 คน ได้เข้ามาปฏิบัติธรรมในสำนักดังกล่าวมาปีเศษ โดยตนได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวในการบำรุงและพัฒนาสำนักดังกล่าวด้วย แต่ต่อมาตนและครอบครัวเห็นว่าในสำนักดังกล่าวนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง อาทิ การเก็บรักษาเงินบริจาค การอบรมสั่งสอนเด็กที่ผิดแปลกแหวกแนวไปจากตามหลักธรรมพระพุทธศาสนา จึงได้พาภรรยา บุตร 2 คนกลับบ้านเดิมโดยฝาก ด.ญ.แดง (นามสมมติ) ไว้กับสำนักพุทธสถานธรรม
เนื่องจากโรงเรียนยังไม่ปิดเทอม และเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ตนเดินทางมารับ ด.ญ.แดง กลับบ้าน แต่ปรากฏว่า ด.ญ.แดง ไม่ยอมกลับ โดยอ้างว่าการอยู่รวมกับพ่อแม่เป็นกรรม และเป็นการสร้างภาระให้พ่อแม่ ตนจึงนำความเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง แต่ทางตำรวจไม่สามารถจัดการได้เนื่องจากเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงแนะนำให้เข้าร้องทุกข์ต่อ สนง.พัฒนาสังคมฯดังกล่าว
ทางด้าน แม่ชีกัญญภักดิ์ เจ้าของสำนักพุทธสถานธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ล้างสมองเด็กและให้การอบรมเด็กที่ผิดแปลกแต่อย่างใด เด็กจะอยู่หรือไม่มิใช่เป็นหน้าที่ของตนที่จะไปพูดกับเด็ก แต่เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะพูดให้ลูกกลับบ้าน เด็กจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่หรือไม่เป็นเรื่องของเด็กตนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่หากเด็กอยู่กับตนตนก็จะให้การดูแลเลี้ยงดู และให้การอบรมสั่งสอนตามปกติ