ตรัง - เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 4 อำเภอของจังหวัดตรัง เฝ้าระวังอุบัติภัยจากพายุป้าหม่าหลังมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่วนเกษตรกรเดือดร้อนเพราะไม่สามารถกรีดยางพาราได้
วันนี้ (8 ต.ค.) นายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากสภาวะอากาศเกือบทุกพื้นที่ในจังหวัดตรังขณะนี้ มีภาวะฝนตกหนักกระจายกว่า 60% ของพื้นที่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความแรงของพายุป้าหม่า (PARMA) ดังนั้น จึงอยากเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองตรัง อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน และอำเภอนาโยง ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มบ่อยครั้งเมื่อเกิดภาวะฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน
สำหรับในส่วนของการเตือนภัย ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนไปยังฝ่ายปกครองพื้นที่ ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยมิสเตอร์เตือนภัย ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ประกอบกับจะต้องมีการประกาศให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรับทราบทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อการติดพร้อมในการอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของและทรัพย์สิน หากเกิดภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่
จากการตรวจสอบปริมาณน้ำยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งปริมาณน้ำบนภูเขา และอ่างเก็บน้ำทุกแห่ง พบว่ายังคงอยู่ในภาวะปกติ แต่ได้ขอประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกราย เฝ้าระวังติดตามการพยากรณ์อากาศตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันตนเอง ไม่ให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้ แต่ฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางพาราได้ตามปกติ และทำให้ต้องสูญเสียรายได้วันละกว่า 500-1,000 บาทต่อครอบครัว ทั้งที่ขณะนี้ราคายางพาราแผ่นดิบและน้ำยางสด มีราคาสูงเกือบกิโลกรัมละ 70 บาท โดยน้ำยางสด อยู่ที่กิโลกรัมละ 58-59 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพคละ อยู่ที่กิโลกรัมละ 63-64 บาท ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 65.50-66.50 บาท และเศษยางพารา อยู่ที่กิโลกรัมละ 15-20 บาท ซึ่งเกษตรกรในเกือบทุกพื้นที่ต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์การพยากรณ์อากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากต่างเฝ้ารอสภาวะอากาศที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อการออกกรีดยางพารานำรายได้มาเลี้ยงครอบครัวต่อไป
