ปัตตานี – จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่หน้า สภ.โคกโพธิ์ และระเบิดป้อมยาม ทางเข้าที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง ล่าสุด เจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนและขยายผลเพื่อจับคนร้ายที่เหลืออย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อขาวรายงานจากจังหวัดปัตตานี ว่า คนร้ายลอบวางระเบิดหน้า สภ.โคกโพธิ์ ใกล้งานชักพระ และระเบิดป้อมยามทางเข้าที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น
นายพิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีระเบิดทั้งสองจุดได้แยกเป็น 2 คดี โดยเฉพาะที่ อ.โคกโพธิ์ นั้น ใช้รถจักรยานยนต์ก่อให้เกิดระเบิด ได้มีการนำพยานชี้ภาพในแฟ้มคนร้ายแล้ว มีการชี้ตัวเหมือนกันหลายคน และมีการสเกตช์ภาพก็เป็นลักษณะตรงกับในภาพ ดังนั้น จึงเห็นว่า เป็นวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มก่อกวน สร้างสถานการณ์
ขณะนี้มีการประสานงานกับทหารที่จะควบคุมตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนที่ อ.ยะหริ่ง เป็นการทำระเบิดเองแบบง่ายๆ เอาท่อพีวีซีมาประกอบและนำวงจรมาใส่ ทำเป็นลักษณะระเบิดขว้าง มีอานุภาพไม่ร้ายแรง จะเห็นได้ว่า ระเบิดชนิดนี้ก่อเหตุในพื้นที่ปัตตานีมาแล้ว 5 ครั้ง เกิดระเบิดเพียง 2 ครั้ง แต่แรงระเบิดทำให้มีบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทั้งสองเรื่องไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังเชื่อมโยงเกี่ยวกับสถานการณ์ใต้ยังไม่ได้ เป็นเรื่องของความขัดแย้งและความคึกคะนองเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม มีการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย มีการตั้งจุดตรวจทุกมุมเมือง เชื่อว่า สถานการณ์เบาบางลง
ส่วนทางด้าน พลตรี จีระศักดิ์ ชมประสพ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เข้าตรวจสอบจากการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามคนร้ายที่วางระเบิด อ.โคกโพธิ์ โดยได้สอบปากคำพยานหลายคน ที่เห็นวัยรุ่นดังกล่าวนำรถจักรยานยนต์ไปวางไว้ ชี้ตรงกันหลายคน จึงทำการขยายผล และได้ใช้กฎอัยการศึก สามารถควบคุมตัวได้ 1 คน มีสารปนเปื้อนเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตามร่างกาย ซึ่งขอสงวนชื่อ เพื่อขยายผลติดตามคนร้ายคนอื่นๆ โดยจับได้ที่ ม.1 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะนี้ได้นำตัวไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้สื่อขาวรายงานจากจังหวัดปัตตานี ว่า คนร้ายลอบวางระเบิดหน้า สภ.โคกโพธิ์ ใกล้งานชักพระ และระเบิดป้อมยามทางเข้าที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น
นายพิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีระเบิดทั้งสองจุดได้แยกเป็น 2 คดี โดยเฉพาะที่ อ.โคกโพธิ์ นั้น ใช้รถจักรยานยนต์ก่อให้เกิดระเบิด ได้มีการนำพยานชี้ภาพในแฟ้มคนร้ายแล้ว มีการชี้ตัวเหมือนกันหลายคน และมีการสเกตช์ภาพก็เป็นลักษณะตรงกับในภาพ ดังนั้น จึงเห็นว่า เป็นวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มก่อกวน สร้างสถานการณ์
ขณะนี้มีการประสานงานกับทหารที่จะควบคุมตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนที่ อ.ยะหริ่ง เป็นการทำระเบิดเองแบบง่ายๆ เอาท่อพีวีซีมาประกอบและนำวงจรมาใส่ ทำเป็นลักษณะระเบิดขว้าง มีอานุภาพไม่ร้ายแรง จะเห็นได้ว่า ระเบิดชนิดนี้ก่อเหตุในพื้นที่ปัตตานีมาแล้ว 5 ครั้ง เกิดระเบิดเพียง 2 ครั้ง แต่แรงระเบิดทำให้มีบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทั้งสองเรื่องไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังเชื่อมโยงเกี่ยวกับสถานการณ์ใต้ยังไม่ได้ เป็นเรื่องของความขัดแย้งและความคึกคะนองเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม มีการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย มีการตั้งจุดตรวจทุกมุมเมือง เชื่อว่า สถานการณ์เบาบางลง
ส่วนทางด้าน พลตรี จีระศักดิ์ ชมประสพ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เข้าตรวจสอบจากการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามคนร้ายที่วางระเบิด อ.โคกโพธิ์ โดยได้สอบปากคำพยานหลายคน ที่เห็นวัยรุ่นดังกล่าวนำรถจักรยานยนต์ไปวางไว้ ชี้ตรงกันหลายคน จึงทำการขยายผล และได้ใช้กฎอัยการศึก สามารถควบคุมตัวได้ 1 คน มีสารปนเปื้อนเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตามร่างกาย ซึ่งขอสงวนชื่อ เพื่อขยายผลติดตามคนร้ายคนอื่นๆ โดยจับได้ที่ ม.1 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะนี้ได้นำตัวไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
