พัทลุง – กรณีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านและมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุงในเรื่องที่ชาวบ้านเข้าไปประกอบอาชีพในบริเวณสาธารณะประโยชน์ ล่าสุดมีการประชุมกันได้ผลสรุปออกมาว่ามหาวิทยาลัยทักษิณได้ยินยอมให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว จำนวน 337ไร่2 งาน ให้เข้าไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน สำหรับส่วนที่เหลือให้นำไปใช้ในการจัดตั้งวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ขอใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์ ในท้องที่ ม.6 ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จำนวน 1,454 ไร่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างมหาวิทยาลัยทักษิณ ต่อมาได้มีการก่อสร้างมหาวิทยาลัยฯไปก่อสร้างในท้องที่ ม.9 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง และได้คืนที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่จะก่อสร้าง ม.ทักษิณ ในท้องที่ ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน ให้กับจังหวัดฯ 815 ไร่
ส่วนพื้นที่ที่เหลืออยู่ จำนวน 635 ไร่ จะนำไปเป็นสถานที่ก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยทักษิณกับชาวบ้านที่เข้าไปประกอบอาชีพในบริเวณดังกล่าวจนมีการชุมนุมประท้วงและต่อต้านการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยฯหลายครั้งตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ นายวิสุทธิ์ นิวัติติวงศกรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประนูญ สุวรรณภักดี รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว
ซึ่งผลการประชุมปรากฏว่ามหาวิทยาลัยทักษิณได้ยินยอมให้ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว จำนวน 337ไร่2 งาน ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน สำหรับส่วนที่เหลือให้นำไปใช้ในการจัดตั้งวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จไปแล้วบางส่วน
โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุงจะเข้าไปดำเนินการรังวัดปักเขตโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนั้นก็ได้มอบหมายให้นายปิติเลิศ สุวรรณเกศา นอภ.ควนขนุนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดำเนินการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ตามอำนาจหน้าที่และตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ขอใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์ ในท้องที่ ม.6 ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จำนวน 1,454 ไร่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างมหาวิทยาลัยทักษิณ ต่อมาได้มีการก่อสร้างมหาวิทยาลัยฯไปก่อสร้างในท้องที่ ม.9 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง และได้คืนที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่จะก่อสร้าง ม.ทักษิณ ในท้องที่ ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน ให้กับจังหวัดฯ 815 ไร่
ส่วนพื้นที่ที่เหลืออยู่ จำนวน 635 ไร่ จะนำไปเป็นสถานที่ก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยทักษิณกับชาวบ้านที่เข้าไปประกอบอาชีพในบริเวณดังกล่าวจนมีการชุมนุมประท้วงและต่อต้านการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยฯหลายครั้งตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ นายวิสุทธิ์ นิวัติติวงศกรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประนูญ สุวรรณภักดี รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว
ซึ่งผลการประชุมปรากฏว่ามหาวิทยาลัยทักษิณได้ยินยอมให้ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว จำนวน 337ไร่2 งาน ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน สำหรับส่วนที่เหลือให้นำไปใช้ในการจัดตั้งวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จไปแล้วบางส่วน
โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุงจะเข้าไปดำเนินการรังวัดปักเขตโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนั้นก็ได้มอบหมายให้นายปิติเลิศ สุวรรณเกศา นอภ.ควนขนุนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดำเนินการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ตามอำนาจหน้าที่และตามกฎหมายต่อไป