xs
xsm
sm
md
lg

แฉ"กล้ายางเถื่อน” ระบาดอีสาน-เหนือ-ตะวันออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ –ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย แนะเกษตรกรพิจารณาซื้อต้นกล้ายางที่มีคุณภาพมาปลูก หลังจากที่มีต้นกล้ายางพาราพันธุ์ เจวีพี. จำหน่ายให้เกษตรกรชาวสวนภาคเหนือ อีสาน และตะวันออก เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไม่ได้รับรับรองพันธุ์ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยางพารา พ.ศ.2542

นายเพิก เลิศวางพงศ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ชสยท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา ได้มีการนำต้นกล้ายางพาราพันธุ์ เจวีพี. ออกตลาดขายให้กับเกษตรกร ที่จะทำการปลูกสวนยางพาราแล้ว ประมาณ 300,000 ต้น โดยขายกันมากในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จึงเป็นเรื่องที่น่าหวั่นวิตก เพราะต้นกล้ายางพารา เจวีพี. ยังไม่ได้การรับรองพันธุ์ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยางพารา พ.ศ.2542 แต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อต้นกล้ายางพารายังไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางเกษตรกรไม่ควรรีบเร่งซื้อต้นกล้ายางพารามาปลูกก่อน หากภายหลังว่าจะเกิดผลเสียหายแล้ว ใครจะรับผิดชอบต่อผลเสียหายที่เกิดขึ้น

“ต้นกล้ายางพาราพันธุ์ เจวีพี. ได้มีการปลูกกันในจังหวัดตรังมาก่อน มีการระบุว่า เป็นยางพันธุ์ดี น้ำยางออกดีมีคุณภาพ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงนำมาปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะนออกเฉียงเหนือ ซึ่งพื้นที่ภูมิอากาศรวมทั้งดินจะต่างกัน หากเกิดความเสียหายแก่เกษตรกร แล้วใครจะรับผิดชอบ แล้วผลเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล เพราะการปลูกยางพาราต้องใช้เวลาถึง 7 ปี” นายเพิกกล่าว

นายเพิกกล่าวต่อว่า การนำต้นกล้ายางพารา ออกมาจำหน่ายให้กับเกษตรกร จะต้องผ่านกระบวนการดำเนินการให้ถูกต้องเสียก่อน โดยจะต้องได้รับการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรเสียก่อนจึงจะดำเนินการได้ เพราะเรื่องนี้หากเกิดความเสียหายแล้ว จะเกิดความเสียหายมูลค่าอย่างมหาศาล จึงยากให้กรมวิชาการการเกษตร กระทรวงเกษตร ออกมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการอย่างเร่งด่วน

“ต้นกล้ายางพารา ที่ออกขายให้กับเกษตรกรประมาณ 300,000 ต้น ปลูกไร่ละ 76 ต้น รวมแล้วเกือบ 4,000 ไร่ ซึ่งต้นกล้ายางพาราที่ออกขายราคาประมาณ 35 บาท/ต้น เดิมนั้นราคาต้นกล้ายางพาราโดยทั่วไป ประมาณ 15 – 16 บาท แต่ปัจจุบันได้ขยับสูงขึ้นมากตามภาวะการตลาด” นายเพิกกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น