ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐบาลจัดสรรงบประมาณปี 2553 ให้กลุ่มจังหวัดอันดามันกว่า 18 ล้านบาท ทำโครงการศูนย์กู้ภัยทางทะเลกลุ่มภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ด้วยการจัดซื้อเรือให้การช่วยเหลือและอุปกรณ์ เรือเร็ว หวังสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งทะเล หากเกิดภัยทางทะเลขึ้นจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดตั้ง “ศูนย์กู้ภัยทางทะเลกลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน” ว่า ตามที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่และตรัง ได้เสนอของบประมาณจากรัฐบาลที่เป็นงบประมาณกลุ่มจังหวัดอันดามันปีงบประมาณ 2553 เพื่อดำเนินโครงการศูนย์กู้ภัยทางทะเลกลุ่มภาคใต้นั้น ปรากฏว่าขณะนี้ทางกลุ่มจังหวัดอันดามันได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 18 ล้านบาท ในการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน รวมถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลอันดามันว่า หากมีอุบัติเหตุหรือภัยทางทะเล กลุ่มจังหวัดอันดามันมีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์การให้การช่วยและบุคลลากร ที่ได้รับการอบรมการให้การช่วยเหลือมาอย่างดี ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน
นายอุดมพรกล่าวอีกว่า โครงการนี้จะนำร่องดำเนินการใน 3 จังหวัดที่เป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของอันดามันก่อน คือ ที่ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ส่วนทางระนองกับตรังนั้นจะเป็นโครงการดำเนินการของบประมาณมาดำเนินการต่อไป เพราะการดำเนินการโดยใช้งบประมาณของกลุ่มจังหวัดนั้นทุกจังหวัดในกลุ่มอันดามัน จะต้องได้รับประโยชน์ร่วมกันจากงบประมาณก้อนดังกล่าว
ในงบประมาณ 18 กว่าล้านบาทนั้น เมื่อได้รับการอนุมัติและประกาศตามพรบ.งบประมาณปี 2553 แล้ว ทางศูนย์ฯจะนำมาจัดซื้ออุปกรณ์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ชายฝั่งในระยะประมาณ 4-5 กิโลเมตร จัดซื้อเรือเร็วให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด 3 ลำ โดยให้ประจำการที่จังหวัดภูเก็ต 1 ลำ กระบี่ 1 ลำ และที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีก 1 ลำ รวมทั้งสิ้น 3 ลำ เครื่องมืออุปกรณ์ในการสื่อสาร
ที่สำคัญคือ การจัดอบรมอาสาสมัครให้มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ทั้งในส่วนของอาสามัครจากหน่วยงานและมูลนิธิต่างๆ อปพร. และลูกเรือประมง โดยเฉพาะลูกเรือประมงนั้นจะเห็นว่าในการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยทางทะเล กลุ่มที่เข้าถึงผู้ประสบภัยเป็นกลุ่มแรก จะเป็นเรือประมงที่ทำประมงอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ดังนั้น จะดึงลูกเรือประมงมาอบรมสร้างความเข้าใจในเรื่องของการให้การช่วยเหลือด้วย
นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดตั้ง “ศูนย์กู้ภัยทางทะเลกลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน” ว่า ตามที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่และตรัง ได้เสนอของบประมาณจากรัฐบาลที่เป็นงบประมาณกลุ่มจังหวัดอันดามันปีงบประมาณ 2553 เพื่อดำเนินโครงการศูนย์กู้ภัยทางทะเลกลุ่มภาคใต้นั้น ปรากฏว่าขณะนี้ทางกลุ่มจังหวัดอันดามันได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 18 ล้านบาท ในการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน รวมถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลอันดามันว่า หากมีอุบัติเหตุหรือภัยทางทะเล กลุ่มจังหวัดอันดามันมีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์การให้การช่วยและบุคลลากร ที่ได้รับการอบรมการให้การช่วยเหลือมาอย่างดี ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน
นายอุดมพรกล่าวอีกว่า โครงการนี้จะนำร่องดำเนินการใน 3 จังหวัดที่เป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของอันดามันก่อน คือ ที่ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ส่วนทางระนองกับตรังนั้นจะเป็นโครงการดำเนินการของบประมาณมาดำเนินการต่อไป เพราะการดำเนินการโดยใช้งบประมาณของกลุ่มจังหวัดนั้นทุกจังหวัดในกลุ่มอันดามัน จะต้องได้รับประโยชน์ร่วมกันจากงบประมาณก้อนดังกล่าว
ในงบประมาณ 18 กว่าล้านบาทนั้น เมื่อได้รับการอนุมัติและประกาศตามพรบ.งบประมาณปี 2553 แล้ว ทางศูนย์ฯจะนำมาจัดซื้ออุปกรณ์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ชายฝั่งในระยะประมาณ 4-5 กิโลเมตร จัดซื้อเรือเร็วให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งหมด 3 ลำ โดยให้ประจำการที่จังหวัดภูเก็ต 1 ลำ กระบี่ 1 ลำ และที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีก 1 ลำ รวมทั้งสิ้น 3 ลำ เครื่องมืออุปกรณ์ในการสื่อสาร
ที่สำคัญคือ การจัดอบรมอาสาสมัครให้มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ทั้งในส่วนของอาสามัครจากหน่วยงานและมูลนิธิต่างๆ อปพร. และลูกเรือประมง โดยเฉพาะลูกเรือประมงนั้นจะเห็นว่าในการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยทางทะเล กลุ่มที่เข้าถึงผู้ประสบภัยเป็นกลุ่มแรก จะเป็นเรือประมงที่ทำประมงอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ดังนั้น จะดึงลูกเรือประมงมาอบรมสร้างความเข้าใจในเรื่องของการให้การช่วยเหลือด้วย
