พัทลุง - จังหวัดพัทลุงขยายเวลาขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 เนื่องจากฤดูการทำนาของภาคใต้ ช้ากว่าภาคอื่น เพื่อรักษาสิทธิของเกษตรกรในการรับการช่วยเหลือจากโครงการของรัฐ
วันนี้ (29 ก.ย.) นายอัครเดช จันทรัตน์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง ขยายเวลาขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553
ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูกาลทำนาของภาคใต้ช้ากว่าภาคอื่น การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อให้เป็นหลักฐานประกอบการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำให้ภาครัฐทราบจำนวนเกษตรกรที่ทำนา พื้นที่ปลูกข้าว ปริมาณผลผลิต ช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด และป้องกันมิให้มีการสวมสิทธิของเกษตรกรในการรับการช่วยเหลือจากโครงการของรัฐ
จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ติดต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ ในวัน และเวลาราชการ หรือที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล หรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอนัดหมาย พร้อมนำหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารสิทธิที่ดิน หรือเอกสารการเช่าที่ดิน และหลักฐานการขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.02) มาประกอบการขึ้นทะเบียนด้วย
นายอัครเดชกล่าวอีกว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีในปีนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด ของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดพัทลุงมีเฉพาะข้าวนาปีเท่านั้น ในการขึ้นทะเบียนมีขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอน คือ การรับคำร้อง
เกษตรกรต้องไปรับแบบและเขียนคำร้องที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือจุดนัดหมายเอง ให้หัวหน้าครอบครัว หรือมอบหมายคนในครัวเรือนที่บรรลุนิติภาวะ จากนั้นจะมีการตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบโดยจัดเวทีชุมชน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ แล้วประกาศผลการตรวจสอบ และจัดพิมพ์ใบรับรองให้เกษตรกร นำไปเป็นหลักฐานประกันราคาข้าวกับ ธ.ก.ส.ต่อไป
วันนี้ (29 ก.ย.) นายอัครเดช จันทรัตน์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง ขยายเวลาขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553
ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูกาลทำนาของภาคใต้ช้ากว่าภาคอื่น การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อให้เป็นหลักฐานประกอบการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำให้ภาครัฐทราบจำนวนเกษตรกรที่ทำนา พื้นที่ปลูกข้าว ปริมาณผลผลิต ช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด และป้องกันมิให้มีการสวมสิทธิของเกษตรกรในการรับการช่วยเหลือจากโครงการของรัฐ
จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ติดต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ ในวัน และเวลาราชการ หรือที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล หรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอนัดหมาย พร้อมนำหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารสิทธิที่ดิน หรือเอกสารการเช่าที่ดิน และหลักฐานการขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.02) มาประกอบการขึ้นทะเบียนด้วย
นายอัครเดชกล่าวอีกว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีในปีนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด ของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดพัทลุงมีเฉพาะข้าวนาปีเท่านั้น ในการขึ้นทะเบียนมีขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอน คือ การรับคำร้อง
เกษตรกรต้องไปรับแบบและเขียนคำร้องที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือจุดนัดหมายเอง ให้หัวหน้าครอบครัว หรือมอบหมายคนในครัวเรือนที่บรรลุนิติภาวะ จากนั้นจะมีการตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบโดยจัดเวทีชุมชน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ แล้วประกาศผลการตรวจสอบ และจัดพิมพ์ใบรับรองให้เกษตรกร นำไปเป็นหลักฐานประกันราคาข้าวกับ ธ.ก.ส.ต่อไป