พิษ ศก.ตกต่ำ ทุบยอดขายขนมเดือนสิบตรังซบเซาหนัก

ตรัง - ยอดจำหน่ายขนมประจำเทศกาลบุญเดือนสิบปี 2552 เป็นไปอย่างซบเซากว่าปี 2551 ที่ผ่านมา เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จนส่งผลกระทบต่อวัตถุดิบที่มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น

วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ออกไปสำรวจบรรยากาศการจำหน่าย ขนมประจำเทศกาลบุญเดือนสิบ หรือที่เรียกกันว่า วันสารทเดือนสิบ หรือวันทำบุญใหญ่ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวพุทธภาคใต้ ที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยต่างมีความเชื่อว่า บรรพบุรุษ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะถูกปล่อยตัวจากยมบาลให้ขึ้นมาพบลูกหลานและญาติพี่น้อง เป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่เวลาวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 ถึงวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 โดยในปีนี้คือวันที่ 19 กันยายนที่กำลังจะถึง

ทั้งนี้ บรรยากาศการจำหน่ายขนมประจำเทศกาลบุญเดือนสิบ ประจำปี 2552 เป็นไปอย่างซบเซากว่าปี 2551 ที่ผ่านมา เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จนส่งผลกระทบต่อวัตถุดิบที่มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น น้ำตาลทรายที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต ดังนั้น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหลายรายต้องลดการผลิตลง และหันมารับสินค้าจากแหล่งผลิตอื่นมาจำหน่ายแทน เพื่อลดภาระต้นทุนการผลิตและการจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจำหน่ายของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าดังกล่าว ก็เพื่อที่จะตรึงราคาของขนมเดือนสิบให้ทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว คือ ขนมบ้า จะอยู่ที่ 100 ลูก ราคา 80 บาท ขนมดีซัมหรือขนมรู อยู่ที่ 100 ลูก ราคา 100-120 บาท ขนมพองคละสี อยู่ที่ราคาชิ้นละ 5-8 บาท ขนมลากรอบ อยู่ที่ราคาชิ้นละ 8-10 บาท และขนมลาเช็ดหรือขนมลาผืน อยู่ที่ผืนละ 3-5 บาท แต่หากซื้อเป็นกิโลกรัม จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท

นอกจากนี้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะนำของแห้งที่ใช้เป็นเสบียงกรัง เช่น ข้าวสาร หอมกระเทียม พริก กะปิ ไม้ขีดไฟ มาจัดเป็นชุดเสบียงกรัง เพื่อที่ลูกค้าจะได้เลือกซื้อนำไปจัดเป็นหมรับ โดยอยู่ที่ราคาชุดละ 20 บาท ซึ่งเช่นเดียวกับขนมเดือนสิบที่พ่อค้าแม่ค้าได้นำมาจัดเป็นชุด เพื่อลูกค้าจะได้เลือกซื้อได้ง่ายและได้ของครบตามความต้องการ โดยอยู่ที่ราคาชุดละ 30-45 บาท ซึ่งเรียกความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ แม้ยอดการจำหน่ายขนมประจำเทศกาลเดือนสิบจะซบเซากว่าปีที่ผ่านมา แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้ายังคงตั้งความหวังว่า ในช่วงเย็นวันที่ 18 กันยายน และช่วงเช้าของวันที่ 19 กันยายนนี้ จะมีพุทธศาสนิกชนชาวปักษ์ใต้ออกมาหาซื้ออาหารคาวหวาน เพื่อนำไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษเพิ่มมากขึ้น