ตรัง - เกิดเหตุขโมยช้างคณะละครเร่ชื่อดังมาจากจังหวัดกระบี่ เพื่อหวังเรียกเงินค่าไถ่มูลค่า 3.5 แสนบาท แต่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้เสียก่อน ในสภาพที่หิวโหย อดโซ เพราะไม่ได้กินอาหารมา 2 วัน
เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุการณ์ลักขโมยช้างเข้ามาในพื้นที่อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง จึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.อ.เสกสรรค์ ชูรังสฤษดิ์ ผู้กำกับการ สภ.นาโยง จังหวัดตรัง และ พ.ต.ท.ทศพร สมบัติทอง รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมกันนำกำลังเดินทางเข้าไปติดตามหาช้างพลายสงกรานต์ อายุ 7 ปี หลังจากที่ได้โดนลักขโมยมา ในขณะกำลังแสดงละครเร่ของคณะดอกดินโชว์ อยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 หรือเมื่อเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา
จากนั้นได้รับความร่วมมือจากบรรดาควาญช้าง ทั้งในพื้นที่จังหวัดตรัง และจังหวัดกระบี่ จนกระทั่งสามารถสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายรายนี้ได้นำช้างพลายสงกรานต์ มาหลบซ่อนไว้ในพื้นที่จังหวัดตรัง ดังนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางเข้ามาติดตามช้างในพื้นที่อำเภอนาโยง กระทั่งพบช้างถูกล่ามโซ่ไว้ในป่า ริมเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านใสสะท้อน อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งมีสภาพโดยทั่วไปเป็นป่ารกทึบ และมืดเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังไม่มีบ้านเรือนใดๆ ตั้งอยู่ใกล้เลย จึงทำให้กลุ่มคนร้ายที่ลักขโมยช้างตัวดังกล่าวมาไหวตัวทันหลบหนีไปได้
โดยพบว่าช้างพลายสงกรานต์ยังคงอยู่ในสภาพที่หิวโหย อดโซอย่างหนัก ซึ่งน่าจะถูกล่ามไว้บริเวณที่เกิดเหตุมาแล้วกว่า 2 วัน และไม่ได้กินอาหารด้วย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดหรือดุร้ายออกมามากนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดหาอาหารให้ ช้างพลายสงกรานต์ ได้กินจนอิ่ม ซึ่งก็ทำให้ช้างดังกล่าวมีท่าทีที่เชื่องขึ้นเป็นมาก และยอมให้ผู้คนสามารถเข้าไปจับเนื้อต้องตัวได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจาก สภ.นาโยง จังหวัดตรัง และจาก ภ.จว.กระบี่ ก็จะร่วมกันทำการสืบสอบสวนสวนหากลุ่มคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายอิทธิพันธุ์ ขาวละมัย หรือขาววังช้าง เลขาธิการมูลนิธิพระคชบาล จังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ประสานและติดตามความคืบหน้าในการตามหาช้างพลายสงกรานต์ กล่าวโดยเบื้องต้นว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้าย ซึ่งมีอาชีพเป็นควาญช้างในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ทำการติดต่อขอเรียกเงินเป็นจำนวน 350,000 บาท เพื่อเป็นค่าไถ่ตัวช้างพลายสงกรานต์ ซึ่งจริงๆ แล้วจะมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านบาท พร้อมทั้งยังได้มีการนัดจ่ายเงินค่าไถ่ตัวช้าง ในคืนวันเกิดเหตุ หรือเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552 แต่ปรากฏว่าในช่วงเย็นของคืนดังกล่าวก่อนที่จะมีการส่งมอบเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตาม ช้างพลายสงกรานต์ กลับคืนมาได้เสียก่อน
สำหรับเหตุการณ์เรียกค่าไถ่ช้างในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีลักษณะของการดำเนินการกันเป็นขบวนการ และเหตุการณ์ดังกล่าวก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง และคาดว่าในอนาคตหากยังไม่มีมาตรการควบคุมหรือป้องกันอย่างดี เชื่อว่าเจ้าของช้าง หรือควาญช้างรายอื่นๆ อาจจะเจอกับเหตุการณ์เรียกค่าไถ่ช้างได้อีก จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนด้วย
