“ธีระ” สั่งบรรจุหลักสูตรคุณธรรมและเศรษฐกิจพอเพียงในแผนการเรียนของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หวังให้นักเรียนในสังกัดวธ.รู้จักเลือกรับวัฒนธรรม
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ศิลปวัฒนธรรมกับการจัดการศึกษา” ตอนหนึ่งว่า เนื่องจากการเข้ามาของระบบทุนนิยมซึ่งไม่เหมาะกับสังคมไทย ทำให้เกิดผลกระทบไปทุกภาคส่วนทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะปัญหาด้านวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของคนไทย เช่น ปัญหาการลักขโมยสินทรัพย์ของราชการ ติดนิสัยฟุ้งเฟ้อ ใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย และมีนิสัยไม่พึ่งพาตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่ก็มาเกิดขึ้นในสังคมยุคนี้ สำหรับแนวทางแก้ไข คือ การกลับไปตั้งหลักและย้อนกลับไปที่วัฒนธรรมไทยดั้งเดิมซึ่งมีความเหมาะสมกับสังคมไทย ด้วยวิธีการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ประกอบด้วย การพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกัน ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุด โดยผู้ที่จะดำเนินการจำเป็นต้องมีทั้งความรู้และคุณธรรมประกอบกัน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ได้มอบแนวทางให้กับครู-อาจารย์ของ สบศ.เพื่อนำหลักคุณธรรมและความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงบรรจุเข้าในหลักสูตรการเรียนการสอนและแนวข้อสอบ เพื่อให้เด็กนักเรียนและนักศึกษาของ สบศ.ซึ่งต้องเป็นผู้นำในสายงานด้านวัฒนธรรมในอนาคตได้มีความเข้าใจอย่างแท้จริง ในยุคที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ เด็กยุคใหม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ในการเลือกรับเอาวัฒนธรรมที่ดี เช่นเดียวกับการเข้ามาของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยก็จะต้องรับเฉพาะวัฒนธรรมที่ดีและไม่ขัดกับวิถีชีวิตของคนไทย เช่น การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ในการรับประทานอาหาร นิยมให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ถือว่าเหมาะกับสังคมไทยที่มักกินข้าวร่วมสำรับเดียวกัน ดังนั้น การใช้ช้อนกลางจะช่วยป้องกันโรคติดต่อได้ เป็นต้น
“เรากลับไปสู่วิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมในแบบรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่ได้แล้ว แต่สามารถเลือกรับวัฒนธรรมที่เข้ามาใหม่ๆ ได้ ถ้าได้รับการศึกษาที่ดีพอ เด็กบ้านเราก็จะมีภูมิคุ้มกัน” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ศิลปวัฒนธรรมกับการจัดการศึกษา” ตอนหนึ่งว่า เนื่องจากการเข้ามาของระบบทุนนิยมซึ่งไม่เหมาะกับสังคมไทย ทำให้เกิดผลกระทบไปทุกภาคส่วนทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะปัญหาด้านวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของคนไทย เช่น ปัญหาการลักขโมยสินทรัพย์ของราชการ ติดนิสัยฟุ้งเฟ้อ ใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย และมีนิสัยไม่พึ่งพาตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่ก็มาเกิดขึ้นในสังคมยุคนี้ สำหรับแนวทางแก้ไข คือ การกลับไปตั้งหลักและย้อนกลับไปที่วัฒนธรรมไทยดั้งเดิมซึ่งมีความเหมาะสมกับสังคมไทย ด้วยวิธีการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ประกอบด้วย การพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกัน ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุด โดยผู้ที่จะดำเนินการจำเป็นต้องมีทั้งความรู้และคุณธรรมประกอบกัน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ได้มอบแนวทางให้กับครู-อาจารย์ของ สบศ.เพื่อนำหลักคุณธรรมและความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงบรรจุเข้าในหลักสูตรการเรียนการสอนและแนวข้อสอบ เพื่อให้เด็กนักเรียนและนักศึกษาของ สบศ.ซึ่งต้องเป็นผู้นำในสายงานด้านวัฒนธรรมในอนาคตได้มีความเข้าใจอย่างแท้จริง ในยุคที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ เด็กยุคใหม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ในการเลือกรับเอาวัฒนธรรมที่ดี เช่นเดียวกับการเข้ามาของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยก็จะต้องรับเฉพาะวัฒนธรรมที่ดีและไม่ขัดกับวิถีชีวิตของคนไทย เช่น การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ในการรับประทานอาหาร นิยมให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ถือว่าเหมาะกับสังคมไทยที่มักกินข้าวร่วมสำรับเดียวกัน ดังนั้น การใช้ช้อนกลางจะช่วยป้องกันโรคติดต่อได้ เป็นต้น
“เรากลับไปสู่วิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมในแบบรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่ได้แล้ว แต่สามารถเลือกรับวัฒนธรรมที่เข้ามาใหม่ๆ ได้ ถ้าได้รับการศึกษาที่ดีพอ เด็กบ้านเราก็จะมีภูมิคุ้มกัน” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
