ปัตตานี - ตำรวจสเก็ตช์ภาพผู้ต้องสงสัยวางระเบิด จยย.บอมกลางเมืองปัตตานี ขณะที่หลายหน่วยงานเข้าซ่อมแซมร้านค้า บ้านพัก ไฟฟ้าที่เสียหายจากเหตุระเบิด รวมถึงลงพื้นที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบช.ศชต. ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี และชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง เพื่อสรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่
โดยเฉพาะล่าสุดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกลางเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ได้รายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้นำวัตถุพยานต่าง ๆ ที่ได้มาจากในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบและบางส่วนนำไปตรวจสอบในทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาดีเอ็นเอ ซึ่งหลักฐานบางส่วนเบื้องต้นสามารถเชื่อมโยงถึงกลุ่มของผู้ก่อเหตุ แต่ยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ที่คนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้ ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของใคร เนื่องจากคนร้ายได้ลบหมายเลขเครื่องและตัวถัง โดยชุดสืบสวนได้นำซากของรถจักรยานยนต์ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ประมาณ 3-4 วันน่าจะรู้ผล
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาสอบปากคำแล้วหลายปาก ทำให้คดีมีความคืบหน้า โดยพยานสามารถระบุรูปพรรณของผู้ต้องสงสัยที่นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสเก็ตช์ภาพของผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลประวัติของผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยต่อไป
ในส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัย หลังจากที่ได้รับรายงานว่า กลุ่มก่อความไม่สงบได้นำรถยนต์ซุกระเบิดจำนวน 2 คันเข้ามาวนเวียนในพื้นที่ 3 จังหวัดเพื่อเตรียมจะก่อเหตุนั้น ขณะนี้ได้จัดชุดสืบสวน ชุดสอบสวน ชุดนอกเครื่องแบบ กระจายกำลังออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง และยังมีการสนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายในการตั้งจุดสกัด ชุดลาดตระเวนเส้นทาง และชุดซุ่ม ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้ส่งชุดมวลชนสัมพันธ์ออกพบปะประชาชนในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อบอีกทางหนึ่ง
ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปัตตานี หลายสิบคนเข้าไปช่วยกันซ่อมแซมร้านค้า บ้านพัก รวมไปถึงไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด นอกจากนี้ทางจังหวัดได้มีการเข้าไปเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างเร่งด่วนทันที
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบช.ศชต. ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี และชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง เพื่อสรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่
โดยเฉพาะล่าสุดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกลางเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ได้รายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้นำวัตถุพยานต่าง ๆ ที่ได้มาจากในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบและบางส่วนนำไปตรวจสอบในทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาดีเอ็นเอ ซึ่งหลักฐานบางส่วนเบื้องต้นสามารถเชื่อมโยงถึงกลุ่มของผู้ก่อเหตุ แต่ยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ที่คนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้ ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของใคร เนื่องจากคนร้ายได้ลบหมายเลขเครื่องและตัวถัง โดยชุดสืบสวนได้นำซากของรถจักรยานยนต์ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ประมาณ 3-4 วันน่าจะรู้ผล
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาสอบปากคำแล้วหลายปาก ทำให้คดีมีความคืบหน้า โดยพยานสามารถระบุรูปพรรณของผู้ต้องสงสัยที่นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสเก็ตช์ภาพของผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลประวัติของผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยต่อไป
ในส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัย หลังจากที่ได้รับรายงานว่า กลุ่มก่อความไม่สงบได้นำรถยนต์ซุกระเบิดจำนวน 2 คันเข้ามาวนเวียนในพื้นที่ 3 จังหวัดเพื่อเตรียมจะก่อเหตุนั้น ขณะนี้ได้จัดชุดสืบสวน ชุดสอบสวน ชุดนอกเครื่องแบบ กระจายกำลังออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง และยังมีการสนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายในการตั้งจุดสกัด ชุดลาดตระเวนเส้นทาง และชุดซุ่ม ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้ส่งชุดมวลชนสัมพันธ์ออกพบปะประชาชนในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อบอีกทางหนึ่ง
ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปัตตานี หลายสิบคนเข้าไปช่วยกันซ่อมแซมร้านค้า บ้านพัก รวมไปถึงไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด นอกจากนี้ทางจังหวัดได้มีการเข้าไปเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างเร่งด่วนทันที
