กระบี่ - เทศบาลเมืองกระบี่ถังแตก รายได้หาย 57 ล้านบาท เหตุจัดเก็บภาษี ไม่เข้าเป้า ผลพวงจากนโยบายของรัฐบาล
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า สำนักเทศบาลเมืองกระบี่กำลังประสบปัญหาในเรื่องงบประมาณสำหรับการพัฒนาในปีงบประมาณ 2552 โดยที่เหลือเวลาในการจัดเก็บภาษีต่างเพียง 1 เดือนเศษ แต่ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 57 ล้านบาท
โดยเฉพาะค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนนิติกรรมที่ดิน ซึ่งรัฐบาลประกาศลดค่าธรรมเนียมเพื่อจูงใจให้มีการจดทะเบียนนิติกรรมมากขึ้นนั้น ที่ผ่านมาเทศบาลเคยได้เงินจากการจดทะเบียนดังกล่าวปีละ 22 ล้านบาท แต่ขณะนี้ได้เพียง 6 ล้านบาท จากการได้ที่เก็บภาษีไม่เข้าเป้าทำให้เทศบาลต้องระงับการก่อสร้างบางโครงการที่เตรียมแผนพัฒนาท้องถิ่นไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะเก็บภาษีได้เพียงพอ
นายกีรติศักดิ์เปิดเผยอีกว่า นอกจากเรื่องการจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้าหมายแล้ว การที่รัฐบาลมีแนวนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจ่ายเงินสวัสดิการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน จากเดิมเทศบาลเมืองกระบี่ เคยได้รับจากรัฐบาลคนละ 500 บาท ต่อเดือน และเทศบาลสมทบอีก 200 บาท แต่จ่ายเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีที่พึ่งพาดูแล จำนวน 100 กว่าคน แต่ถ้าต้องจ่ายเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคนซึ่งมีอยู่จำนวน 1,342 คน ก็จะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นอีก 7 ล้านบาท และอาสาสมัครสาธารณสุข ของเทศบาลที่มีอยู่อีก 350 คน เดือนละ 600 บาท ต่อคนเป็นเงิน 2 ล้านบาทเศษ รวม2 รายการเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท ที่เทศบาลจะต้องจ่ายในปีงบประมาณ 2553
“ปัญหาสำหรับการพัฒนาท้องถิ่นก็ดี ถ้าเทศบาลไม่มีงบประมาณก็ไม่สามารถดำเนินการได้ และจะมีผลต่อชื่อเสียงของเทศบาลรวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จึงต้องบอกให้พี่น้องประชาชนให้เข้าใจ ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะยอมรับสภาพได้ในภายหลัง แต่อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองกระบี่ จำทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น และช่วยเหลือประชาชนในด้านสวัสดิการต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง ตามที่สามารถจะทำได้” นายกีรติศักดิ์ กล่าว
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า สำนักเทศบาลเมืองกระบี่กำลังประสบปัญหาในเรื่องงบประมาณสำหรับการพัฒนาในปีงบประมาณ 2552 โดยที่เหลือเวลาในการจัดเก็บภาษีต่างเพียง 1 เดือนเศษ แต่ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 57 ล้านบาท
โดยเฉพาะค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนนิติกรรมที่ดิน ซึ่งรัฐบาลประกาศลดค่าธรรมเนียมเพื่อจูงใจให้มีการจดทะเบียนนิติกรรมมากขึ้นนั้น ที่ผ่านมาเทศบาลเคยได้เงินจากการจดทะเบียนดังกล่าวปีละ 22 ล้านบาท แต่ขณะนี้ได้เพียง 6 ล้านบาท จากการได้ที่เก็บภาษีไม่เข้าเป้าทำให้เทศบาลต้องระงับการก่อสร้างบางโครงการที่เตรียมแผนพัฒนาท้องถิ่นไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะเก็บภาษีได้เพียงพอ
นายกีรติศักดิ์เปิดเผยอีกว่า นอกจากเรื่องการจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้าหมายแล้ว การที่รัฐบาลมีแนวนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจ่ายเงินสวัสดิการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน จากเดิมเทศบาลเมืองกระบี่ เคยได้รับจากรัฐบาลคนละ 500 บาท ต่อเดือน และเทศบาลสมทบอีก 200 บาท แต่จ่ายเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีที่พึ่งพาดูแล จำนวน 100 กว่าคน แต่ถ้าต้องจ่ายเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคนซึ่งมีอยู่จำนวน 1,342 คน ก็จะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นอีก 7 ล้านบาท และอาสาสมัครสาธารณสุข ของเทศบาลที่มีอยู่อีก 350 คน เดือนละ 600 บาท ต่อคนเป็นเงิน 2 ล้านบาทเศษ รวม2 รายการเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท ที่เทศบาลจะต้องจ่ายในปีงบประมาณ 2553
“ปัญหาสำหรับการพัฒนาท้องถิ่นก็ดี ถ้าเทศบาลไม่มีงบประมาณก็ไม่สามารถดำเนินการได้ และจะมีผลต่อชื่อเสียงของเทศบาลรวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จึงต้องบอกให้พี่น้องประชาชนให้เข้าใจ ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะยอมรับสภาพได้ในภายหลัง แต่อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองกระบี่ จำทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น และช่วยเหลือประชาชนในด้านสวัสดิการต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง ตามที่สามารถจะทำได้” นายกีรติศักดิ์ กล่าว
