ตรัง - ตำรวจ สภ.สิเกา จังหวัดตรัง สรุปเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม 2 หนุ่มตายคาแคร่ ที่ อ.สิเกา มาจากการยิงผิดตัว พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบต.ที่กำลังจะเลือกตั้ง
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถกระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน เป็นยานพาหนะก่อเหตุใช้อาวุธปืนชนิดเอ็ม 16 ลอบยิงนายเอกชัย อภัยพงศ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 2 บ้านห้วยต่อ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา และนายชำนิ นาพอ อายุ 38 ปี เพื่อนสนิท อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 1 ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง จนเสียชีวิตคาที่
เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 29 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตายทั้งสองพร้อมเพื่อนอีก 1 คน คือ นายยุทธพงศ์ ทรงสิน อายุ 21 ปี ที่รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด รวม 3 คน กำลังนั่งสังสรรค์อยู่บริเวณแคร่ หลังบ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 2 ตำบลไม้ฝาด ของนายเอกชัย โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปลอกกระสุนปืน ชนิดเอ็ม 16 ได้จำนวน 20 ปลอกนั้น
วันนี้ (31 ส.ค.) พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้กำกับการ สภ.สิเกา กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ตายทั้ง 2 คน รวมทั้งเพื่อนที่รอดคมกระสุนปืนในครั้งนี้ มีนิสัยดี ความประพฤติเรียบร้อย และไม่เคยมีประเด็นความขัดแย้งกับผู้ใด ในที่นี้คนร้ายคงสังหารผิดตัว เพราะจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายคงหมายสังหาร นายสอาด อภัยพงศ์ หรือนายแดง ผู้เป็นพ่อของนายเอกชัย ซึ่งเป็นคนกว้างขวาง และเคยมีปัญหาพัวพันคดีฆ่าเซียนพนันไก่ชนในพื้นที่ สภ.นาโยง จังหวัดตรัง เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันนายสอาดมาอาศัยอยู่บ้านเกิดเหตุ เนื่องจากได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต.ไม้ฝาด หมู่ที่ 2 ด้วย และขณะนี้อยู่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง
ผู้กำกับการ สภ.สิเกา กล่าวอีกว่า บ้านหลังเกิดเหตุปกติไม่ค่อยจะเปิดประตูบ้านมากนัก เนื่องจากนายสอาด หรือนายแดง ก็ระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา แต่ในช่วงหาเสียงนี้หลังจากเสร็จสิ้นการเดินหาเสียงในแต่ละวัน นายสอาด ก็มักจะนั่งเล่นพูดคุยกับญาติๆ รวมทั้งเพื่อนบ้าน และหัวคะแนนเสียง กันที่แคร่หลังบ้านจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นประจำ แต่คืนเกิดเหตุนายสอาดไปนั่งพูดคุยหาเสียงอยู่กับเพื่อนบ้านหลังที่อยู่ลึกเข้าไปเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้นายสอาดรอดหวุดหวิด แต่โชคร้ายตกอยู่กับบุตรชายและเพื่อนของบุตรชายดังกล่าว ส่วนคนร้ายเชื่อว่าเป็นมือปืนรับจ้าง พร้อมยืนยันไม่ใช่ปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
ร.ต.ท.แดง ศรีสมบูรณ์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.สิเกา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากนายชำนิ เพื่อนของนายเอกชัย หนึ่งในผู้ตาย เป็นคนรูปร่างใหญ่ และมีลักษณะคล้ายกับ นายสอาด ประกอบกับแคร่หลังบ้านที่ทุกคนนั่งพูดคุยกันอยู่ หากมองจากจุดซุ่มยิงของคนร้าย จะมีผ้าที่เจ้าของบ้านตากไปบังไว้ ตั้งแต่ส่วนบนจากไหล่ถึงใบหน้าของ นายชำนิ พอดี คนร้ายจึงเข้าใจว่า นายชำนิ คือ นายสอาด ร่างของนายชำนิจึงถูกระสุนปืนมากที่สุด และเสียชีวิตเป็นคนแรก ในส่วนของนายยุทธพงศ์ผู้รอดชีวิตนั้นได้นั่งหันหน้าไปทางที่คนร้ายดักซุ่มจึงเห็นหน้าชัดและแยกแยะได้
นอกจากนั้น ขณะเกิดเหตุเมื่อได้ยินเสียงปืน นายยุทธพงศ์เห็นเพื่อนล้มตกลงจากแคร่ ก็ยังมีสติมุดลงใต้แคร่และคลานหลบหนีไปทางด้านหลัง จึงรอดคมกระสุนปืนไปได้ ส่วน นายเอกชัย ลูกชายนายสอาดลุกขึ้นจะวิ่งหนี จึงถูกกระสุนปืนเสียชีวิตเป็นคนที่ 2
ร.ต.ท.แดง กล่าวอีกว่า คดีนี้จากแนวทางการสืบสวนหาข่าวจึงเชื่อว่าคนร้ายคงตั้งใจจะสังหารนายสอาด หรือนายแดง แต่ช่วงเกิดเหตุนายสอาดยังนั่งอยู่บ้านเพื่อน คนอื่นรวมทั้งบุตรชายจึงรับเคราะห์แทน และเรื่องนี้เกิดมาจากปัญหาส่วนตัวของนายสอาด โดยไม่ใช่ประเด็นปัญหาการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถกระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน เป็นยานพาหนะก่อเหตุใช้อาวุธปืนชนิดเอ็ม 16 ลอบยิงนายเอกชัย อภัยพงศ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 2 บ้านห้วยต่อ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา และนายชำนิ นาพอ อายุ 38 ปี เพื่อนสนิท อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 1 ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง จนเสียชีวิตคาที่
เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 29 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตายทั้งสองพร้อมเพื่อนอีก 1 คน คือ นายยุทธพงศ์ ทรงสิน อายุ 21 ปี ที่รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด รวม 3 คน กำลังนั่งสังสรรค์อยู่บริเวณแคร่ หลังบ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 2 ตำบลไม้ฝาด ของนายเอกชัย โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปลอกกระสุนปืน ชนิดเอ็ม 16 ได้จำนวน 20 ปลอกนั้น
วันนี้ (31 ส.ค.) พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้กำกับการ สภ.สิเกา กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ตายทั้ง 2 คน รวมทั้งเพื่อนที่รอดคมกระสุนปืนในครั้งนี้ มีนิสัยดี ความประพฤติเรียบร้อย และไม่เคยมีประเด็นความขัดแย้งกับผู้ใด ในที่นี้คนร้ายคงสังหารผิดตัว เพราะจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายคงหมายสังหาร นายสอาด อภัยพงศ์ หรือนายแดง ผู้เป็นพ่อของนายเอกชัย ซึ่งเป็นคนกว้างขวาง และเคยมีปัญหาพัวพันคดีฆ่าเซียนพนันไก่ชนในพื้นที่ สภ.นาโยง จังหวัดตรัง เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันนายสอาดมาอาศัยอยู่บ้านเกิดเหตุ เนื่องจากได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต.ไม้ฝาด หมู่ที่ 2 ด้วย และขณะนี้อยู่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง
ผู้กำกับการ สภ.สิเกา กล่าวอีกว่า บ้านหลังเกิดเหตุปกติไม่ค่อยจะเปิดประตูบ้านมากนัก เนื่องจากนายสอาด หรือนายแดง ก็ระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา แต่ในช่วงหาเสียงนี้หลังจากเสร็จสิ้นการเดินหาเสียงในแต่ละวัน นายสอาด ก็มักจะนั่งเล่นพูดคุยกับญาติๆ รวมทั้งเพื่อนบ้าน และหัวคะแนนเสียง กันที่แคร่หลังบ้านจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นประจำ แต่คืนเกิดเหตุนายสอาดไปนั่งพูดคุยหาเสียงอยู่กับเพื่อนบ้านหลังที่อยู่ลึกเข้าไปเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้นายสอาดรอดหวุดหวิด แต่โชคร้ายตกอยู่กับบุตรชายและเพื่อนของบุตรชายดังกล่าว ส่วนคนร้ายเชื่อว่าเป็นมือปืนรับจ้าง พร้อมยืนยันไม่ใช่ปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
ร.ต.ท.แดง ศรีสมบูรณ์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.สิเกา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากนายชำนิ เพื่อนของนายเอกชัย หนึ่งในผู้ตาย เป็นคนรูปร่างใหญ่ และมีลักษณะคล้ายกับ นายสอาด ประกอบกับแคร่หลังบ้านที่ทุกคนนั่งพูดคุยกันอยู่ หากมองจากจุดซุ่มยิงของคนร้าย จะมีผ้าที่เจ้าของบ้านตากไปบังไว้ ตั้งแต่ส่วนบนจากไหล่ถึงใบหน้าของ นายชำนิ พอดี คนร้ายจึงเข้าใจว่า นายชำนิ คือ นายสอาด ร่างของนายชำนิจึงถูกระสุนปืนมากที่สุด และเสียชีวิตเป็นคนแรก ในส่วนของนายยุทธพงศ์ผู้รอดชีวิตนั้นได้นั่งหันหน้าไปทางที่คนร้ายดักซุ่มจึงเห็นหน้าชัดและแยกแยะได้
นอกจากนั้น ขณะเกิดเหตุเมื่อได้ยินเสียงปืน นายยุทธพงศ์เห็นเพื่อนล้มตกลงจากแคร่ ก็ยังมีสติมุดลงใต้แคร่และคลานหลบหนีไปทางด้านหลัง จึงรอดคมกระสุนปืนไปได้ ส่วน นายเอกชัย ลูกชายนายสอาดลุกขึ้นจะวิ่งหนี จึงถูกกระสุนปืนเสียชีวิตเป็นคนที่ 2
ร.ต.ท.แดง กล่าวอีกว่า คดีนี้จากแนวทางการสืบสวนหาข่าวจึงเชื่อว่าคนร้ายคงตั้งใจจะสังหารนายสอาด หรือนายแดง แต่ช่วงเกิดเหตุนายสอาดยังนั่งอยู่บ้านเพื่อน คนอื่นรวมทั้งบุตรชายจึงรับเคราะห์แทน และเรื่องนี้เกิดมาจากปัญหาส่วนตัวของนายสอาด โดยไม่ใช่ประเด็นปัญหาการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
