ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตมั่นใจได้งบสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งกว่า 2,000 ล้าน เชื่อสร้างเสร็จดึงตลาดประชุมสัมมนาเข้าภูเก็ตได้อีกเพียบ
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ตว่า สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ตได้บรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปีงบประมาณ 2553 จะไปอยู่ในส่วนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าจะได้งบประมาณในส่วนนี้ โดยอาจจะสนับสนุนการก่อสร้างประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ส่วนการออกแบบกรมธนารักษ์เป็นผู้รับผิดชอบ ก็อยู่ระหว่างการออกแบบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนต้องการให้เป็นศูนย์ประชุมที่มีทั้งสถานที่ประชุม ที่สามารถจุคนได้ประมาณ 3,000-4,000คน นอกจากการจัดประชุมแล้วยังสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในการจัดแสดงสินค้าหรืออื่นๆ ลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่รูปแบบของอาคารให้เน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทยภาคใต้ หรือภูเก็ต
ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วจะสามารถรองรับการประชุมหรือการจัดนิทรรศการของภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงด้วย ไม่ว่าจะเป็นพังงา กระบี่ หรือจังหวัดอื่นๆ และสถานที่จัดงานแสดงสินค้า หรือเอ็กซิบิชันฮอลล์ในการสาธิตงานต่างๆ อย่างเช่น งานไอทีบี ที่เยอรมนี
นางอัญชลีกล่าวต่อไปว่า ต่อไปในอนาคตถ้าเราสามารถสร้างศูนย์ประชุมที่ได้มาตรฐาน จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว ในอนาคตเราอาจจะรองรับงานระดับนานาชาติ เช่น ไอทีบี ได้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มประชุสัมมนา ซึ่งปกติเรามีคนมาท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตปีละประมาณ 5 ล้านคน แต่ถ้าได้ตลาดกลุ่มประชุมสัมมนาเข้ามาเพิ่ม จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็อยู่ที่ว่าคนภูเก็ตจะมีศักยภาพในการรับมือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น มีทักษะและมีศักยภาพที่จะรองรับศูนย์ประชุมใหญ่หรือเปล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องรีบทบทวน ในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ในอนาคต
สำหรับสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ อยู่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 150 ไร่ ซึ่งเป็นที่ของธนารักษ์ แต่อยากจะได้เนื้อที่เพิ่มประมาณ 200 หรือ 300 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในส่วนต่างๆ ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตอนนี้ต้องไปตกลงกับทางอุทยานฯ ส่วนในเรื่องของแบบก็จะออกแบบครอบคลุม ใน 150 ไร่แรกก่อน
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ตว่า สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ตได้บรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปีงบประมาณ 2553 จะไปอยู่ในส่วนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าจะได้งบประมาณในส่วนนี้ โดยอาจจะสนับสนุนการก่อสร้างประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ส่วนการออกแบบกรมธนารักษ์เป็นผู้รับผิดชอบ ก็อยู่ระหว่างการออกแบบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่จังหวัดภูเก็ต เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนต้องการให้เป็นศูนย์ประชุมที่มีทั้งสถานที่ประชุม ที่สามารถจุคนได้ประมาณ 3,000-4,000คน นอกจากการจัดประชุมแล้วยังสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในการจัดแสดงสินค้าหรืออื่นๆ ลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่รูปแบบของอาคารให้เน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทยภาคใต้ หรือภูเก็ต
ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างแล้วจะสามารถรองรับการประชุมหรือการจัดนิทรรศการของภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงด้วย ไม่ว่าจะเป็นพังงา กระบี่ หรือจังหวัดอื่นๆ และสถานที่จัดงานแสดงสินค้า หรือเอ็กซิบิชันฮอลล์ในการสาธิตงานต่างๆ อย่างเช่น งานไอทีบี ที่เยอรมนี
นางอัญชลีกล่าวต่อไปว่า ต่อไปในอนาคตถ้าเราสามารถสร้างศูนย์ประชุมที่ได้มาตรฐาน จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว ในอนาคตเราอาจจะรองรับงานระดับนานาชาติ เช่น ไอทีบี ได้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มประชุสัมมนา ซึ่งปกติเรามีคนมาท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตปีละประมาณ 5 ล้านคน แต่ถ้าได้ตลาดกลุ่มประชุมสัมมนาเข้ามาเพิ่ม จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็อยู่ที่ว่าคนภูเก็ตจะมีศักยภาพในการรับมือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น มีทักษะและมีศักยภาพที่จะรองรับศูนย์ประชุมใหญ่หรือเปล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องรีบทบทวน ในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ในอนาคต
สำหรับสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ อยู่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 150 ไร่ ซึ่งเป็นที่ของธนารักษ์ แต่อยากจะได้เนื้อที่เพิ่มประมาณ 200 หรือ 300 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในส่วนต่างๆ ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตอนนี้ต้องไปตกลงกับทางอุทยานฯ ส่วนในเรื่องของแบบก็จะออกแบบครอบคลุม ใน 150 ไร่แรกก่อน
