พัทลุง - ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอป่าบอนออกโรงคัดค้านการประกาศเขตอุตสาหกรรมผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอยู่ในช่วงการศึกษาวิจัยกำหนดเขตในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ชี้แค่เพียงโรงงานที่ตั้งอยู่ก่อนแล้วก็ทำสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ พร้อมจี้ให้มีการทบทวน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ชาวบ้านหมู่ 2-6-8 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน และเครือข่ายเกษตรทางเลือก จังหวัดพัทลุง กว่า 50 คน เดินทางถือป้ายคัดค้านและยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หลังจากที่สำนักงานโยธาธิการและฝังเมืองจังหวัด ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ศึกษาวิจัย กำหนดเขตพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ท้องที่อำเภอป่าบอน เนื่องจากชาวบ้านหวั่นจะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรในระยะยาว
นายสุนทร วงษ์บุญ อายุ 65 ปี แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า การที่จังหวัดจะประกาศเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ป่าบอน นั้น น่าจะศึกษาผลกระทบให้ดีกว่านี้ ขนาดที่ยังไม่ประกาศ โรงงานที่มีตั้งอยู่ก่อนแล้วยังสร้างมลพากระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เช่น โรงงานรับชื้อน้ำยาง โรงงานแปรรูปยางแผ่น และฟาร์มเลี้ยงสุกร ปล่อยน้ำเสีย ลงสู่ลำคลอง ทำให้พื้นที่ทางด้านการเกษตร นาข้าว สวนยางพารา มีผลกระทบและได้รับความเสียหาย ซึ่งหากจังหวัดยังประกาศเขตอุตสาหกรรมพื้นที่ดังกล่าวต่อไปชาวบ้านคงรับไม่ได้ และอยากให้เร่งทบทวนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ชาวบ้านหมู่ 2-6-8 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน และเครือข่ายเกษตรทางเลือก จังหวัดพัทลุง กว่า 50 คน เดินทางถือป้ายคัดค้านและยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หลังจากที่สำนักงานโยธาธิการและฝังเมืองจังหวัด ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ศึกษาวิจัย กำหนดเขตพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ท้องที่อำเภอป่าบอน เนื่องจากชาวบ้านหวั่นจะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรในระยะยาว
นายสุนทร วงษ์บุญ อายุ 65 ปี แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า การที่จังหวัดจะประกาศเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ป่าบอน นั้น น่าจะศึกษาผลกระทบให้ดีกว่านี้ ขนาดที่ยังไม่ประกาศ โรงงานที่มีตั้งอยู่ก่อนแล้วยังสร้างมลพากระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เช่น โรงงานรับชื้อน้ำยาง โรงงานแปรรูปยางแผ่น และฟาร์มเลี้ยงสุกร ปล่อยน้ำเสีย ลงสู่ลำคลอง ทำให้พื้นที่ทางด้านการเกษตร นาข้าว สวนยางพารา มีผลกระทบและได้รับความเสียหาย ซึ่งหากจังหวัดยังประกาศเขตอุตสาหกรรมพื้นที่ดังกล่าวต่อไปชาวบ้านคงรับไม่ได้ และอยากให้เร่งทบทวนอีกครั้ง