กอ.รมน.สั่งจับตามองกลุ่มชายแดนใต้ในตรัง

ตรัง - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ให้จังหวัดตรังจับตามองความเคลื่อนไหว ของผู้คนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หวั่นใช้เป็นฐานการก่อการร้าย

พ.อ.ปณิธาน เชิญอักษร รองผู้บัญชาการวิทยาลัยทหารบก กล่าวว่า จากการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ของ กอ.รมน.จังหวัดตรัง ล่าสุด โดย พ.อ.วรเดช เดชรักษา รอง ผอ.รมน.จังหวัดตรัง และ พ.ต.ไตรรงค์ แพชนะ รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการและบริหารงานบุคคล กอ.รมน.จังหวัดตรัง

ทั้งนี้ กอ.รมน.พบว่า พื้นที่จังหวัดตรังในปัจจุบัน ถือเป็นเส้นทางผ่านในการขนส่งยาเสพติด จากจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่ ผ่านไปยังจังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง และพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อนำไปผลิตเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ คือ ชนิด 4 คูณ 100

สำหรับยาเสพติดที่สามารถจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดตรัง ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน 2552 ที่ผ่านมา สูงสุดคือ ยาบ้า จำนวน 24,817 เม็ด รองลงมาคือ กัญชาแห้ง กัญชาสด พืชกระท่อม ยาไอซ์ และสารระเหย ตามลำดับ

นอกจากนั้น กอ.รมน.ยังพบว่า มีอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดตรังสูง คือ ปัญหาอาชญากรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การลงทุน การระบาดของยาเสพติด รวมไปถึงปัญหาของเยาวชน แต่ที่ผ่านมาถือว่าการดูแลระบบความปลอดภัยยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

ส่วนปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ในช่วงระหว่างปี 2548-2552 นั้น พบว่า มีพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุก จำนวน 11,972.36 ไร่ ในขณะที่ปัญหาแรงงานต่างด้าวในปัจจุบันนั้น ยังคงมีการควบคุมและการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีแรงงานต่างด้าวมาขอขึ้นทะเบียนแล้วทั้งหมด 6,333 คน

สำหรับปัญหาก่อการร้ายในจังหวัดตรัง กอ.รมน. ถือว่าไม่ใช่พื้นที่เป้าหมาย แต่ก็ไม่ประมาทและมีการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชายแดนใต้ ที่อพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เกาะแก่งที่มีอยู่มากมายจำนวนหลายแห่ง ซึ่งอาจจะมีการลำเลียงอาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาหลบซ่อนได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาจากบุคคล 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่หลบหนีคดีหรือย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในจังหวัดตรังนั้น ก็เพื่อเข้ามาจัดตั้งเป็นฐานแทรกซึมในการสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

นอกจากนั้น ยังมีการปลุกระดมสร้างเครือข่ายแนวร่วม ในการต่อด้านการปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วย แต่ทาง กอ.รมน.ก็ได้มีการติดตาม และจับกุมบุคคลในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง