รองนายกฯ มั่นใจมาตรการตรวจเข้ม จ.ภูเก็ต เพื่ออารักขาการประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียนสุดเฮี้ยบ ชี้การจับกุมผู้ต้องสงสัยไมีเกี่ยวผู้ก่อการร้าย แต่เป็นผลพวงจากคดี 3 จังหวัดชายแดนใต้ และยาเสพติด
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีการจับผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 คน โดยคาดการณ์ว่าน่าจะเข้ามาทำการก่อการร้าย ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่จังหวัดภูเก็ตว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในครั้งนี้ ได้แต่งตั้งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผู้ดูแลระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ซึ่งได้นำกำลังตำรวจ กำลังพลเรือน และกำลังทหาร 3 เหล่าทัพ มาควบคุมสถานการณ์ โดยใช้มาตรการที่เข้มข้นในการควบคุมสถานการณ์ เพราะที่ผ่านมาประเทศเสียหายเป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดที่พัทยา ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นอีกที่จังหวัดภูเก็ตก็จบกันเลยประเทศไทย ภาพลักษณ์ในสายตาชาวโลกก็จะแย่ต่อไป อาจจะทำให้เราไม่สามารถจัดประชุมระดับนานาชาติได้อีก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมาตนได้ลงไปในพื้นที่โดยได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า นายกฯ ฝากกำลังใจมาให้ และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี
“ส่วนกรณีที่มีการจับผู้ต้องสงสัยว่าจะเข้ามาก่อการร้ายระหว่างการประชุมนั้น เป็นข่าวที่อาจจะทำให้สับสนเพราะมีหลายเหตุการณ์ปนเปกัน ทั้งเรื่องที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจผู้ต้องสัย บังเอิญว่าตรวจค้นแล้วไปเจอคนที่เคยก่อคดีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราก็ต้องคุมตัวไว้ตรวจสอบ เรื่องเจ้าหน้าที่ได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติดที่เป็นการขยายผลจากการจับกุมที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งคิดว่าเครือข่ายนี้มีความโยงใยกับจังหวัดภูเก็ต ในการขนส่งยาเสพติดลงทะเลก็ได้ติดตามกันมา เรื่องที่เกาะยาวเราก็ตรวจค้นได้ยาเสพติด ส่วนที่ท่าเรือเราได้ตรวจค้นรถที่ต้องสงสัยว่าอาจจะมีการขนยาเสพติดหรือระเบิด ไปตรวจแล้วก็ไม่มีอะไร แต่เราก็สงสัยว่าทำไมถึงจอดทิ้งไว้นาน ซึ่งเมื่อสอบถามเจ้าของรถก็บอกว่าจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปตกปลา เรื่องทั้งหมดมาผสมกันพอดี คนก็เอาหลายอย่างมารวมกันก็เลยตื่นเต้น ผมเรียนให้สบายใจได้ว่าขณะนี้ไม่มีอะไร เมื่อคืนผมก็กลับมาดึกแล้ว ต้องขอบคุณพี่น้องชาวภูเก็ตที่ช่วยรายงานข่าวว่ามีเหตุตรงนั้นตรงนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกมากขึ้น” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาภูเก็ตของผู้ต้องสงสัยที่เคยก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คืออะไร นายสุเทพกล่าวว่า มาสมัครสอบ มีทุกแห่งซึ่งเราก็พยายามกวดขัน เมื่อถามว่า คนที่จับได้เป็นกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มยาเสพติด นายสุเทพกล่าวว่า มันต้องแยกกัน ยอมรับว่ามีทั้ง 2 อย่างมันเกิดเหตุการณ์พร้อมกันในเวลาเดียวกัน แต่แยกเป็น 2 ส่วน โดยให้เจ้าหน้าที่เป็นคนทำในรายละเอียด ตนเพียงแต่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อถามว่า ผู้ต้องสงสัยที่จับได้ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการก่อการ้ายหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น อย่างที่ตนได้บอกไปแล้วว่า เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าไปในจังหวัดภูเก็ต ประชาชนก็จะโทรบอก เราก็ติดตามไปขอดูบัตรประชาชนว่าเป็นใคร หลังจากนั้นเราก็เช็คว่าคนคนนี้เคยมีคดีอะไรมาบ้าง
เมื่อถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์ในจังหวัดภูเก็ตไว้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนจะไปประเมินได้อย่างไร ใครจะไปประเมินทัน เพราะต้องใช้เวลาในการสอบสวนอีกมาก เจ้าหน้าที่เขาทำงานหนักอยู่แล้ว ถ้าตนไปกดดันเขามากเขาก็แย่ ตนเชื่อในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคนเข้าจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ที่ทำอยู่ก็เข้มงวดเต็มที่อยู่แล้ว พวกที่แทรกซึมก็แทรกซึมเข้าไปยาก
เมื่อถามว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้รัฐมนตรีต่างประเทศของแต่ละประเทศอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้เรียนกับนายเคิร์ต แคมป์เบล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และทุกประเทศไปแล้วว่า เราได้ดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วยมาตราการที่รัดกุม เพราะตั้งแต่ รมว.ต่างประเทศลงจากเครื่องบินก็จะมีชุดรักษาความปลอดภัยประจำตัว 1 ชุดทันที ซึ่งชุดรักษาความปลอดภัยก็จะติดตามไปทุกที่