ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สร้างขีดความสามารถด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม ให้กับเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รับมือภัยพิบัติฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจัดให้มาการฝึกซ้อมแผนการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ด้านการสื่อสารรับมือเหตุภัยพิบัติฉุกเฉิน ให้กับเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 19 -21 สิงหาคม 2552 เพื่อสำรวจทรัพยาการด้านการสื่อสารที่มีอยู่ในปัจจุบัน ของเครือข่ายเพื่อนเตือนภัย พร้อมการวางแผน และซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนการบริหารจัดการ วิกฤตการณ์ด้านการสื่อสาร เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระบบสื่อสารระหว่างกัน รับมือภัยพิบัติฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
นายมนัส ทรงแสง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นส่วนใหญ่นะบบมาระบบการสื่อสารขั้นพื้นฐานจะล่มทั้งหมด กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีนโยบายการเตรียมความพร้อมแห่งชาติ ด้วยการเตรียมระบบการสื่อสารหลัก และการสื่อสารสำรองให้พร้อมเพื่อรับทุกสถานการณ์
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้สร้างเครือข่ายเพื่อนเตือนภัยขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ให้มาทำหน้าที่ช่วยเตือนภัยในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการทำงานของหอเตือนภัยทั้ง 79 หอในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และการแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เบอร์ 192 ซึ่งเป็นระบบหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ โดยขณะนี้จัดฝึกอบรมไปแล้ว 5 รุ่น มีแกนนำเพื่อนเตือนภัยกว่า 1,000คน โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติตั้งเป้าสร้างเครือข่ายทั่วประเทศ 300,000
ด้านดาบตำรวจพนม สุขวิชัย เพื่อนเตือนภัยจากจังหวัดยะลา บอกว่า การทำหน้าที่เพื่อนภัย จะต้องแจ้งเตือนภัยก่อนเกิดเหตุ โดยเน้นความปลอดภัย และการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อบรรเทาความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนนายไทวกฤต (ไท-วะ-กิด) เพชรสุทธิ์ เพื่อนเตือนภัยจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า เครือข่ายเพื่อนเตือนภัยเปรียบเสมือนหอเตือนภัยเคลื่อนที่ เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรับทราบ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจัดให้มาการฝึกซ้อมแผนการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ด้านการสื่อสารรับมือเหตุภัยพิบัติฉุกเฉิน ให้กับเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 19 -21 สิงหาคม 2552 เพื่อสำรวจทรัพยาการด้านการสื่อสารที่มีอยู่ในปัจจุบัน ของเครือข่ายเพื่อนเตือนภัย พร้อมการวางแผน และซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนการบริหารจัดการ วิกฤตการณ์ด้านการสื่อสาร เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระบบสื่อสารระหว่างกัน รับมือภัยพิบัติฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
นายมนัส ทรงแสง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นส่วนใหญ่นะบบมาระบบการสื่อสารขั้นพื้นฐานจะล่มทั้งหมด กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีนโยบายการเตรียมความพร้อมแห่งชาติ ด้วยการเตรียมระบบการสื่อสารหลัก และการสื่อสารสำรองให้พร้อมเพื่อรับทุกสถานการณ์
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้สร้างเครือข่ายเพื่อนเตือนภัยขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ให้มาทำหน้าที่ช่วยเตือนภัยในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการทำงานของหอเตือนภัยทั้ง 79 หอในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และการแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เบอร์ 192 ซึ่งเป็นระบบหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ โดยขณะนี้จัดฝึกอบรมไปแล้ว 5 รุ่น มีแกนนำเพื่อนเตือนภัยกว่า 1,000คน โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติตั้งเป้าสร้างเครือข่ายทั่วประเทศ 300,000
ด้านดาบตำรวจพนม สุขวิชัย เพื่อนเตือนภัยจากจังหวัดยะลา บอกว่า การทำหน้าที่เพื่อนภัย จะต้องแจ้งเตือนภัยก่อนเกิดเหตุ โดยเน้นความปลอดภัย และการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อบรรเทาความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนนายไทวกฤต (ไท-วะ-กิด) เพชรสุทธิ์ เพื่อนเตือนภัยจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า เครือข่ายเพื่อนเตือนภัยเปรียบเสมือนหอเตือนภัยเคลื่อนที่ เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรับทราบ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน
