ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจัดอมรมเครือข่ายเตือนภัยระดับพื้นที่ มุ่งสร้างองค์ความรู้บูรณาการความร่วมมือเพิ่มประสิทธิภาพและความพร้อมรับมือสถานการณ์ เผยกำลังเร่งติดตั้งระบบเตือนภัยระยะที่ 3 ทั่วประเทศ 144 แห่ง คาดเสร็จ ส.ค.52
วันนี้ (23 มี.ค.) นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบการเตือนภัยระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน ประจำปี 2552 ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงเข้าร่วมประมาณ 200 คน ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่
รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ปัจจุบันภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งการเกิดแผ่นดินไหว อุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัย โคลนถล่ม ไฟป่า เป็นต้น สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินมีมูลค่ามหาศาลด้วยหลากหลายสาเหตุ ทั้งนี้การจัดสัมมนาในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่จะมุ่งสร้างองค์ความรู้และบูรณาการความร่วมมือด้านการสื่อสารและการสร้างเครือข่ายการเตือนภัย ในเกิดความรู้ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ การดำเนินการเตือนภัยและการสื่อสารเตือนภัย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเชื่อว่าการสัมมนาครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้เพื่อการเตรียมพร้อมเผชิญภัยได้อย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ นายธานีรัตน์ กล่าวถึงการดำเนินการติดตั้งระบบเตือนภัยให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศว่า ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ระยะ โดยระยะแรกได้ดำเนินการติดตั้งบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดภาคใต้ ชายฝั่งทะเลอันดามัน และระยะที่ 2 บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย 10 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก 1 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัดภาคตะวันออก และ 9 จังหวัดภาคเหนือ
ขณะที่เวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบเดือนภัยระยะที่ 3 ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัย 57 จังหวัด 144 แห่ง ทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งตามแผนจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2552
วันนี้ (23 มี.ค.) นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบการเตือนภัยระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน ประจำปี 2552 ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงเข้าร่วมประมาณ 200 คน ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่
รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ปัจจุบันภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งการเกิดแผ่นดินไหว อุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัย โคลนถล่ม ไฟป่า เป็นต้น สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินมีมูลค่ามหาศาลด้วยหลากหลายสาเหตุ ทั้งนี้การจัดสัมมนาในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่จะมุ่งสร้างองค์ความรู้และบูรณาการความร่วมมือด้านการสื่อสารและการสร้างเครือข่ายการเตือนภัย ในเกิดความรู้ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ การดำเนินการเตือนภัยและการสื่อสารเตือนภัย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเชื่อว่าการสัมมนาครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้เพื่อการเตรียมพร้อมเผชิญภัยได้อย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ นายธานีรัตน์ กล่าวถึงการดำเนินการติดตั้งระบบเตือนภัยให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศว่า ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ระยะ โดยระยะแรกได้ดำเนินการติดตั้งบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดภาคใต้ ชายฝั่งทะเลอันดามัน และระยะที่ 2 บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย 10 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก 1 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัดภาคตะวันออก และ 9 จังหวัดภาคเหนือ
ขณะที่เวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบเดือนภัยระยะที่ 3 ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัย 57 จังหวัด 144 แห่ง ทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งตามแผนจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2552