นครศรีธรรมราช – ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช แตกตื่นหลังพบต้นกล้วยประหลาดริมคลองใกล้ป้อมยามสายตรวจราเมศวร์ ถูกตัดขาดเหลือต้นเดิมเพียง 20 ซม.แต่กลับแทงหน่อขึ้นมาใหม่ออกปลี และเครือขนาดเล็ก กาบปลีกล้วยกลายเป็นใบ ชาวบ้านร่ำลือเป็นต้นกล้วยองค์พ่อ “จตุคาม-รามเทพ” แห่จุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาถูกหวยร่ำรวยหลายงวดติดต่อกัน
วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าว่า ในขณะนี้ในหมู่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ต่างเล่าลือถึงเรื่องราวของต้นกล้วยประหลาด ซึ่งปลูกอยู่ริมคลองราเมศวร์ ใกล้ป้อมยามสายตรวจราเมศวร์ ถนนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกตัดขาดเหลือต้นเดิมเพียง 20 ซม.แต่กลับแทงหน่อขึ้นมาใหม่และออกปลีและเครือขนาดเล็ก แต่ที่น่าแปลก คือ ในส่วนของกาบปลีกล้วยต้นดังกล่าวกลับแตกออกไปกลายเป็นใบกล้วยอย่างน่าประหลาด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยามราเมศวร์ รวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงล่ำลือกันว่าเป็นต้นกล้วยองค์พ่อจตุคาม-รามเทพ จึงแห่มาจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาและต่างโชคดีถูกหวยร่ำรวยหลายงวดติดต่อกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงพบ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป. สภ.เมือง ร.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร รอง สวป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยามอีก 2-3 นายกำลังช่วยกันทำความสะอาดรอบๆ บริเวณป้อมยาม โดยพบว่า ริมคลองตั้งแต่เชิงสะพานราเมศวร์ จนมาถึงป้อมยามตำรวจระยะทางประมาณ 30 เมตร มีการปลูกกล้วยและอ้อยเรียงรายจำนวนหลายกอๆ ละ 3-4 ต้น โดยกอกล้วยที่ใกล้ป้อมยามมากที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำคอกไม้ไผ่ล้อมเอาไว้ และพบว่ากล้วยกอดังกล่าวมีต้นกล้วยอยู่ 3 ต้นใหญ่ ส่วนอีกต้นหนึ่งเป็นหน่อเล็ก สูงประมาณ 1 เมตรเศษ
จากการสังเกตพบว่า หน่อกล้วยดังกล่าวโผล่ขึ้นมาจากกล้วยต้นเดิมที่โดนตัดทิ้งไปเหลือตอต้นเดิมแค่ 20 ซม.หน่อที่โผล่ออกมาจากต้นเดิมสูงประมาณ 80 ซม.แต่มีเครือกล้วยโผล่ออกมา พร้อมออกผลจำนวน 4 หวี หวีละ 4-8 ผล รวมผลกล้วยทั้ง 4 หวี 30 ผล ที่แปลกประหลาดไปกว่านั้น ก็คือ ในส่วนของกาบปลีกล้วยที่ดอกใต้กาบเติบโตเป็นผลแล้ว ส่วนกาบมีขนาดใหญ่และแปรสภาพจากกาบปลีมาเป็นใบกล้วย โดยจะคงสภาพของกาบปลีกล้วยอยู่เฉพาะในรอบในเท่านั้น ส่วนรอบนอกทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นใบกล้วยอย่างชัดเจน
พ.ต.ท.สมชาย มวยดี กล่าวว่า สำหรับในบริเวณที่ตั้งป้อมยามและบริเวณใกล้เคียงในอดีตเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีเรือสินค้าทั้งในและต่างประเทศเข้ามาจอดเทียบท่า ทำให้ในย่านนี้เป็นย่านการค้าที่สำคัญของเมืองนครศรีธรรมราช โดยการสร้างสะพานราเมศวร์ ดำเนินการจัดสร้างโดย “ขุนราเมศวร์” ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ประจำป้อมยาม ในตอนดึกๆ จะพบเห็นคนรูปร่างสูงใหญ่มาเดินรอบๆ บริเวณ
แต่เมื่อตำรวจออกมาสำรวจก็ไม่พบผู้ใด นอกจากนี้ ชาวบ้านในละแวกนี้ก็เคยพบเห็นคนรูปร่างสูงใหญ่คนดังกล่าวในตอนดึกๆ เป็นประจำ ในวันที่ 13 มิ.ย.2551 ตนพร้อมด้วยตำรวจประจำป้อมจึงทำพิธีบวงสรวงและจัดทำศาล “ขุนราเมศวร์” ขึ้นข้างป้อมยาม หลังจากนั้น ตำรวจประจำป้อมจะมีโชคลาภเป็นประจำ
“สำหรับกอกล้วยและต้นอ้อยที่ปลูกริมคลองทั้งหมดเป็นต้นกล้วยที่ตำรวจนำมาจากการประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุจตุคาม-รามเทพ รุ่นหนึ่งในปี 2548 โดยเมื่อแตกหน่อก็จะแยกออกไปปลูกริมคลองเป็นแนวเรียงรายระยะทางยาว 30 เมตร จากเชิงสะพานถึงป้อมยาม สำหรับต้นกล้วยประหลาดนั้นในวันที่ทำพิธีบวงสรวงครบรอบปี “ศาลขุนราเมศวร์” มีตำรวจประจำป้อมยามคนหนึ่งเดินใกล้ๆ กอกล้วยกอดังกล่าวและเกิดลื่นล้มจึงบันดาลโทสะเตะต้นกล้วยต้นดังกล่าวจนล้ม
หลังจากนั้น ต้นกล้วยที่ล้มก็ถูกทิ้งให้เน่าเสียไป จนเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจคนดังกล่าวขับรถยนต์ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำตำรวจคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ แขนขาหัก บาดเจ็บสาหัส ในขณะที่บุตรของตำรวจคนดังกล่าวที่ไปด้วยจำนวน 2 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย จึงมีการเล่าลือกันว่าตำรวจที่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเป็นเพราะไปเตะต้นกล้วยจนหักล้ม เป็นการลบหลู่ต้นกล้วยทำให้ถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษให้รถคว่ำจนตำรวจนายดังกล่าวบาดเจ็บดังกล่าว และเชื่อว่าเป็นต้นกล้วยราชันย์ดำ หรือ “จตุคาม-รามเทพ” เนื่องจากกล้วยเหล่านี้เป็นกล้วยที่ใช้ในการประกอบพิธีหลายครั้ง
ร.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร รอง สวป.กล่าวว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ตนได้นำมีดมาตัดต้นกล้วยต้นที่โดนตำรวจเตะล้มทิ้ง เหลือเพียงตอต้นกล้วยเดิมสูงจากพื้นเพียง 20 ซม.หลังจากนั้น ก็มีหน่อกล้วยแทงโผล่ขึ้นมาจากตอกล้วยต้นเดิม จนเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2552 ที่ผ่านมา ตนก็ไปพบว่าต้นกล้วยที่เพิ่งแตกหน่อออกมากลับมีเครือกล้วยโผล่ออกมาและมีผลเล็กจำนวนหลายหวี แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ กาบของปลีกล้วยกลับเปลี่ยนสภาพเป็นใบกล้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน ตนและตำรวจทั้งหมดจึงประกอบพิธีบวงสรวงขอขมาลาโทษ ซึ่งขณะที่ประกอบพีก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีปลาจำนวนมากแหวกว่ายมาออที่ริมตลิ่งจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีเต่ากว่า 10 ตัวว่ายมารวมตัวกัน บางตัวว่ายขึ้นมาบนบกบริเวณต้นกล้วย ท่ามกลางความแปลกใจของผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ หลังเสร็จพิธีปลาและเต่าทั้งหมดก็ว่ายกลับไป
“ผมได้สอบถามเรื่องนี้กับพราหมณ์เล็ก เขาเหมน เขาบอกว่า ต้นกล้วยในลักษณะนี้ถือเป็นต้นกล้วยมหามงคลที่หายากมาก และไม่ค่อยได้พบเห็น ในสมัยโบราณเขาเรียกต้นกล้วยในลักษณะนี้ว่า “ยอดเป็นปลี ปลีคาบใบ” และตามตำนานการจัดสร้างวัตถุมงคล “พระปิดตาเขาอ้อ” จะมีมวลสารที่สำคัญที่สุด คือ ส่วนต่างๆ ของต้นกล้วยที่มีลักษณะอย่างนี้เป็นส่วนผสมหลักหรือที่เรียกว่าชนวนมวลสารนั้นเอง ซึ่งเป็นกล้วยที่อยู่ในตำนานของตำราเขาอ้อ และยังเป็นกล้วยที่หาได้ยากมากเช่นกัน” รอง สวป.ระบุ
**การกราบไหว้บูชาสิ่งของประหลาดเป็นความเชื่อส่วนบุคคล การมัวเมาในการพนันเป็นหนทางสู่ความเสื่อม โปรดใช้วิจาีรณญาณในการอ่าน**