ตรัง - โจรหนุ่มหน้าตาดีมาแปลก วิ่งราวทรัพย์หมวก อปพร.จากร้านจำหน่าย 1 ถุง รวมจำนวน 7 ใบ กลางเทศบาลนครตรัง พร้อมประกาศว่าจะเอาไปแจกตำรวจ ก่อนหนีไปหน้าตาเฉย
วันนี้ (17 ส.ค.) ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หมวกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ไปจำนวน 1 ถุง จากร้านคลังเครื่องหมาย ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องหมายทางราชการร้านใหญ่ในจังหวัดตรัง ตั้งอยู่บริเวณ 4 แยกถนนวิเศษกุล (โกกุน) ติดกับโรงแรมควีนส์ ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หรืออยู่ห่างจาก สภ.เมืองตรัง ไปประมาณ 500 เมตร ขอให้เดินทางไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินทางไปไม่ถึง จึงได้พบกับ นางพวงพยอม พันธยุโส๊ะ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน พร้อมกับนางศรีนวล แก่นเมือง อายุ 41 ปี ลูกจ้าง โดยได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่มีชายวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อแขนยาวลายสกอต รูปร่างหน้าตา รวมทั้งบุคลิกดี ตัดผมเกรียน ผิวดำแดง
ทั้งนี้ หลังจากจอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน ขรต-408 ตรัง ไว้หน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาภายในร้านทำทีเหมือนกับมาซื้อเครื่องหมายต่างๆ เหมือนคนทั่วไปที่เข้ามาภายในร้าน จากนั้นได้จู่โจมหยิบถุงที่วางอยู่ไป 1 ถุง ภายในเก็บหมวกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ไว้จำนวน 7 ใบ ราคาจำหน่ายใบละ 220 บาท ก่อนที่ได้ชูถุงหมวกขึ้นแล้วบอกว่ามีอะไรไหม ก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปอย่างหน้าตาเฉย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางพวงพยอม และนางศรีนวล ซึ่งเป็นลูกจ้างตั้งสติได้จึงได้ตะโกนขึ้นเสียงดังว่าขโมย แต่คนร้ายซึ่งนำถุงดังกล่าวไปถึงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ได้เอาถุงยัดใส่ใต้เบาะรถ ก่อนที่จะตะโกนกลับมาว่าเรียกตำรวจมาเลยไม่กลัวตำรวจจับ เพราะจะเอาหมวกไปแจกตำรวจ จากนั้นคนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากจุดจอดอย่างใจเย็นแล้วหลบหนีไปได้
ทางด้านเจ้าของร้านยังกล่าวอีกว่า ร้านคลังเครื่องหมายเปิดมานานแล้ว โดยมีลูกค้าเข้าออกมากมายตั้งแต่ระดับผู้นำหมู่บ้าน จนถึงข้าราชการระดับชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดตรัง แต่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มาก่อน และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งโชคดีที่คนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธ หรือทำร้ายอะไร จึงไม่ตกใจมากนัก ได้แต่มึนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยประสบมาก่อน เมื่อตั้งสติได้จึงตะโกนออกไปขอให้คนช่วย แต่ก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายรายนี้ได้