ผบก.ภูเก็ตระบุยาเสพติดระบาดลามเข้ากลุ่ม นร.ล่าสุดรวบผู้ต้องหาอีก

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผบก.ภูเก็ต เผยยาเสพติดในภูเก็ตระบาดหนัก รุกเข้าสู่กลุ่มนักเรียน ขณะที่คดีเกี่ยวกับทรัพย์ พบแนวโน้มการก่อคดีเดือน มิ.ย ลดลงจากเดือน พ.ค.กว่า 50% เหตุเจ้าหน้าที่รุกหนัก จับผู้กระทำความผิดและขยายผลได้มาก ล่าสุด ตำรวจภูเก็ต รวบผู้ต้องหาคดียาเสพติด และคดีอาชญากรรม ได้ผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต ถิ่นธานี พ.ต.อ.ปวีณ พงศ์ศิรินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องหาคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วยคดียาเสพติด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 367 เม็ด พร้อมติดตามยึดทรัพย์ได้จำนวนหลายรายการ ทั้ง รถยนต์ เงินสด ทองรูปพรรณ พร้อมกล่าวหาว่า ร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังจับกุมยังจับกุมผู้ต้องหาคดียาบ้าได้ผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย คดีวิ่งราวทรัพย์ 2 ราย และคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวน 2 ราย

พล.ต.ต.พิกัด กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีปัญหาเรื่องของการแพร่ระบาดของยาเสพติดสูงซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาเหล่านี้ยังไม่หมดไป และขณะนี้ปัญหายาเสพติดเริ่มที่จะลุกลามเข้าในกลุ่มเด็กนักเรียน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ผู้ปกครองช่วยกันจับตาดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดหากพบเด็กมีพฤติกรรมต้องสงสัยและไม่สามารถที่จะควบคุมดูแลได้ให้แจ้งมายังตำรวจซึ่งทางตำรวจจะเข้าไปดูแลและอบรมให้เด็กกลับมาเป็นคนดีของสังคมต่อไป

ส่วนคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า ขณะนี้ก็ยังมีคดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สถิติการเกิดคดีเกี่ยวกับทรัพย์ในเดือน มิ.ย.2552 มีคดีลดลงถึง 50%

สาเหตุก็เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้มงวดในการจับกุมอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ที่ทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์ได้จำนวนมาก บางรายเมื่อขยายผลแล้วพบว่าก่อคดีมากกว่า 10 คดี ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มผู้ที่กระทำความผิด มีอยู่ไม่กี่กลุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจยังคงออกปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมอย่างเข้มงวดต่อไป