เอกชนครวญระงม รัฐบาลย้ายที่ประชุมอาเซียนซัมมิตไปหัวหิน-ชะอำ ทำภูเก็ตเสียโอกาส ระบุการอ้างเหตุผลความปลอดภัยเท่ากับทำลายความเชื่อมั่น ทั้งที่การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศฯ ที่ผ่านมาคนภูเก็ตร่วมมืออย่างดี จนประสบความสำเร็จ ดึงความเชื่อมั่นกลับคืนมาแล้ว
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้เปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเชียน ครั้งที่ 15 และการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจาในช่วงประมาณเดือนตุลาคมนี้ จากจังหวัดภูเก็ตไปเป็น อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ารู้สึกเสียดาย เพราะจะทำให้ภูเก็ตเสียโอกาส ส่วนทางสมาคมฯ จะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจนว่าทางรัฐบาลย้ายสถานที่จัดประชุมเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ตนทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า การเปลี่ยนสถานที่ไปจัดที่ชะอำ และหัวหิน เนื่องจากบรรดาผู้นำจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดระบบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหากจัดที่ภูเก็ตก็ต้องแบ่งกำลังรักษาความปลอดภัยออกเป็น 2 ชุด
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของไทย บอกถึงสาเหตุที่ต้องที่ย้ายสถานที่จัดประชุมเนื่องจากระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.ที่ภูเก็ตมีการประกอบพิธีถือศีลกินผัก และเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยนั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในประเพณีถือศีลกินผักนั้นคงไม่สามารถที่จะย้ายวันได้อย่างแน่นอน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลหลักของการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุม และการจุดประทัดในช่วงที่มีการประกอบพิธีก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะสามารถที่จะแก้ไขหรือบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอฟังคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ชัดเจนของทางรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
ส่วนจะมีผลมาจากที่มีกระแสข่าวลือการวางระเบิดและมีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายเจไอในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เหตุผลเช่นกันเพราะเรื่องของของข่าวลือไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็สามารถลือกันได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องรอคำชี้แจงจากรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
ขณะที่ นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การอ้างเหตุผลเช่นนั้นคิดว่าเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของจังหวัดภูเก็ตลงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าอ้างแค่ว่าต้องย้ายสถานที่ประชุมออกจากภูเก็ตเพราะมีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของความปลอดภัยขึ้นมาอาจจะทำให้หลายคนคิดได้ว่าภูเก็ตไม่มีความปลอดภัยพอ
“ที่ผ่านมาในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง คนในภูเก็ตร่วมมือกันดูแลการประชุมจนประสบความสำเร็จ ซึ่งผลการจัดประชุมสำเร็จในครั้งนั้นได้ส่งผลดีและคืนความเชื่อมั่นกลับมาให้กับจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย แต่เมื่อรัฐบาลให้เหตุผลเรื่องของความปลอดภัยในการไม่จัดประชุมที่จังหวัดภูเก็ตทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ ที่กลับมาแล้วถูกทำลายไปอีกครั้ง”
นายภูริตกล่าวต่อไปว่า การที่รัฐบาลไม่เลือกจังหวัดภูเก็ตนั้นในส่วนของภาคเอกชนภูเก็ตไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แต่ไม่สมควรที่จะกล่าวอ้างเรื่องของความไม่ปลอดภัย ถ้ากล่าวอ้างเรื่องของประเพณีก็เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้เปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเชียน ครั้งที่ 15 และการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจาในช่วงประมาณเดือนตุลาคมนี้ จากจังหวัดภูเก็ตไปเป็น อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ารู้สึกเสียดาย เพราะจะทำให้ภูเก็ตเสียโอกาส ส่วนทางสมาคมฯ จะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจนว่าทางรัฐบาลย้ายสถานที่จัดประชุมเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ตนทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า การเปลี่ยนสถานที่ไปจัดที่ชะอำ และหัวหิน เนื่องจากบรรดาผู้นำจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดระบบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหากจัดที่ภูเก็ตก็ต้องแบ่งกำลังรักษาความปลอดภัยออกเป็น 2 ชุด
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของไทย บอกถึงสาเหตุที่ต้องที่ย้ายสถานที่จัดประชุมเนื่องจากระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.ที่ภูเก็ตมีการประกอบพิธีถือศีลกินผัก และเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยนั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในประเพณีถือศีลกินผักนั้นคงไม่สามารถที่จะย้ายวันได้อย่างแน่นอน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลหลักของการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุม และการจุดประทัดในช่วงที่มีการประกอบพิธีก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะสามารถที่จะแก้ไขหรือบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอฟังคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ชัดเจนของทางรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
ส่วนจะมีผลมาจากที่มีกระแสข่าวลือการวางระเบิดและมีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายเจไอในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เหตุผลเช่นกันเพราะเรื่องของของข่าวลือไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็สามารถลือกันได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องรอคำชี้แจงจากรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
ขณะที่ นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การอ้างเหตุผลเช่นนั้นคิดว่าเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของจังหวัดภูเก็ตลงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าอ้างแค่ว่าต้องย้ายสถานที่ประชุมออกจากภูเก็ตเพราะมีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของความปลอดภัยขึ้นมาอาจจะทำให้หลายคนคิดได้ว่าภูเก็ตไม่มีความปลอดภัยพอ
“ที่ผ่านมาในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง คนในภูเก็ตร่วมมือกันดูแลการประชุมจนประสบความสำเร็จ ซึ่งผลการจัดประชุมสำเร็จในครั้งนั้นได้ส่งผลดีและคืนความเชื่อมั่นกลับมาให้กับจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย แต่เมื่อรัฐบาลให้เหตุผลเรื่องของความปลอดภัยในการไม่จัดประชุมที่จังหวัดภูเก็ตทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ ที่กลับมาแล้วถูกทำลายไปอีกครั้ง”
นายภูริตกล่าวต่อไปว่า การที่รัฐบาลไม่เลือกจังหวัดภูเก็ตนั้นในส่วนของภาคเอกชนภูเก็ตไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แต่ไม่สมควรที่จะกล่าวอ้างเรื่องของความไม่ปลอดภัย ถ้ากล่าวอ้างเรื่องของประเพณีก็เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้