xs
xsm
sm
md
lg

จนท.อุทยานน้ำตกหวาวระนองสนธิกำลังยึดคืนป่าจากนายทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระนอง - เจ้าหน้าที่อุทยานฯน้ำตกหงาว 60 นาย ระนอง สนธิกำลังยึดคืนพื้นที่ป่าจากนายทุนรุกเข้าไปแผ้วถาง‏

นายไพรัตน์ อุทัยแสง หัวหน้าสายตรวจป้องกันและปราบปรามอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อม ด้วยนายสุรพล อาวุธ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ละอุ่น จ.ระนอง ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละอุ่น ทหารชุด ฉก.ร 25 กองกำลังเทพสตรี อส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ละอุ่น จ.ระนอง ประมาณ 60 นาย เข้ารื้อถอนพืชผลอาสิน และสิ่งปลูกสร้าง บริเวณบ้านแพรกยาง หมู่ 5 ต.ละอุ่นเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยตะเข็บแนวพื้นที่ติดต่อกับบ้านเขาค่าย หมู่ 3 อ.สวี จ.ชุมพร หลังพบมีชาวบ้านและกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุก แผ้วถางป่าและเข้าไปครอบครองทำพื้นที่เกษตร สร้างที่อยู่อาศัยหลายพันไร่

นายไพรัตน์ อุทัยแสง หัวหน้าสายตรวจป้องกันและปราบปรามอุทยานแห่งชาติน้ำตก หงาว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและพิทักษ์ผืนป่าอุทยานซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุม 2 จังหวัดคือระนอง และชุมพร เป็นเนื้อที่ประมาณ 417,500 ไร่ พบว่าหลายพื้นที่มีปัญหาชาวบ้านและกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถางและครอบครอง ซึ่งทางอุทยานได้เข้าไปดำเนินการผลักดัน รวมถึงทำประชาคมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเพื่อไม่ให้มีการบุกรุกแผ้วถางและถือครองเพิ่ม แต่พบว่าที่ผ่านมายังมีผู้ละเมิดอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ปฏิบัติตาม ทางอุทยานจึงมีคำสั่งที่ 25/2552 ลงวันที่ 6 ก.ค.2552 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการรื้อถอนพืชผลอาสิน และสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

ในขณะนี้จากการสำรวจในเบื้องต้นมีพื้นที่เป้าหมายที่ทางอุทยานจะต้องเข้าไปรื้อถอนพืชผลและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 7 แปลง พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ สำหรับในวันนี้ (13 ส.ค.) ได้นำกำลังเข้ารื้อถอนจำนวน 3 แปลงพื้นที่ 34 ไร่ หลังจากที่ได้มีการประกาศคำสั่งให้ผู้กระทำผิดรื้อถอนพืชผลอาสิน/สิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ดังกล่าวภายใน 30 วัน แต่ผู้กระทำผิดไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งแต่ประการใด ทางคณะกรรมการจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 22 ดำเนินการรื้อถอนอาสิน/สิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้พื้นที่ป่ากลับคืนสู่สภาพเดิม

สำหรับพืชผลอาสินที่พบมีทั้งยางพารา กาแฟ และทุเรียน พร้อมที่อยู่อาศัยลักษณะชั่วคราวจำนวนหลายหลัง ซึ่งหลังจากมีการรื้อถอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มอบหมายให้นายชุมพล สังขมณี หัวหน้าหน่วย พิทักษ์ป่า อุทยานฯ นง.3 บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ. ละอุ่น ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนแปลงอื่นๆ จะดำเนินการต่อไป

นายสุรพล อาวุธ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ละอุ่น จ.ระนอง กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกป่าในเขตพื้นที่อ.ละอุ่นกำลังเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายกำลังวิตก เนื่องจากพบว่าหลายพื้นที่มีราษฏรบุกรุก แผ้วถางครอบครองเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง

เช่น ความแห้งแล้ง น้ำป่าไหลหลาก อุทกภัย และดินถล่ม เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากแผนการยึดคืนพื้นที่ป่าจากกลุ่มผู้บุกรุกแล้ว อีกแผนงาน คือ การเข้าไปเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่ป่าให้กลับคืนมาอีกครั้ง ทางอำเภอละอุ่นจึงได้จัดทำโครงการปลูกป่าทดแทนเฉลิมพระเกียรติขึ้น ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ส.ค.2552 - 30 พ.ย.2552 บนพื้นที่เป้าหมายจำนวน 60 แปลง ในเขตพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ในเขตตำบลบางแก้ว ต.ละอุ่นเหนือ ต.ในวงใต้ ต.ละอุ่นใต้ ต.บางพระใต้ และ ต.บางพระเหนือ



กำลังโหลดความคิดเห็น