ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติจาก 10 ประเทศทั่วโลก แลกเปลี่ยนประสบการณ์ป้องกันภัยพิบัติ พร้อมทั้งเรียนรู้ระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤต เพื่อสร้างความพร้อมรับมือภัยพิบัติ
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่โรงแรมฮิวตันอาเดียภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติจาก 10 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และ ไทย ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ป้องกันภัยพิบัติ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยแต่ละประเทศได้นำประสบการณ์เกิดภัยพิบัติ หรือ ภัยธรรมชาติร้ายแรงในประเทศของตนเอง เป็นบทเรียนตัวอย่าง พร้อมทั้งสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ การตั้งระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤต หรือ ICS เช่น การนำระบบศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ ในกรณีเกิดพายุเฮอริเคน ไฟไหม้ป่า ของสหรัฐอเมริกา หรือแผ่นดินไหว ในประเทศอินโดนีเซีย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเกิดภัยพิบัติ ลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชากรโลก
โดย นายพิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย กล่าวว่า ไทยเกิดความตื่นตัวด้านภัยพิบัติ หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยมีการจัดตั้งระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤตในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย โดยระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤต มีการบริหารจัดการบุคลากรเพื่อทำหน้าที่สั่งการ รวมทั้งการสร้างเสริมทักษะความชำนาญของเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต และการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติระหว่างประเทศ และภายในประเทศของตนเองให้มีความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่โรงแรมฮิวตันอาเดียภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติจาก 10 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และ ไทย ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ป้องกันภัยพิบัติ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยแต่ละประเทศได้นำประสบการณ์เกิดภัยพิบัติ หรือ ภัยธรรมชาติร้ายแรงในประเทศของตนเอง เป็นบทเรียนตัวอย่าง พร้อมทั้งสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ การตั้งระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤต หรือ ICS เช่น การนำระบบศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ ในกรณีเกิดพายุเฮอริเคน ไฟไหม้ป่า ของสหรัฐอเมริกา หรือแผ่นดินไหว ในประเทศอินโดนีเซีย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเกิดภัยพิบัติ ลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชากรโลก
โดย นายพิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย กล่าวว่า ไทยเกิดความตื่นตัวด้านภัยพิบัติ หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยมีการจัดตั้งระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤตในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย โดยระบบศูนย์บัญชาการในภาวะวิกฤต มีการบริหารจัดการบุคลากรเพื่อทำหน้าที่สั่งการ รวมทั้งการสร้างเสริมทักษะความชำนาญของเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต และการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติระหว่างประเทศ และภายในประเทศของตนเองให้มีความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต