xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ต่างประเทศนำคณะเอกอัครราชทูต OIC ลงพื้นที่สีแดงชายแดนใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การประชุมมุสลิม OIC ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับทราบข้อมูล ปัญหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การประชุมมุสลิม หรือ OIC ประกอบด้วย ประเทศบังกลาเทศ, อิหร่าน, คูเวต, ปากีสถาน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คาซัคสถาน, โอมาน, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, บรูไนดารุสซาราม จำนวน 42 คน และคณะผู้ติดตาม

พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิม จำนวน 13 คน จาก 4 ประเทศ ที่มีความสำคัญด้านสื่อมวลชนในโลกอาหรับ ประกอบด้วย สื่อมวลชนจากประเทศอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ กาตาร์ เดินทางมารับทราบข้อมูลในพื้นที่ในด้านต่างๆ พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ และการดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา และ รับทราบบทบาทของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ เสรีภาพในการนับถือศาสนาในประเทศไทย และมิติด้านเศรษฐกิจและสังคม นโยบายเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของรัฐบาล ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยกับโลกมุสลิม อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ฯลฯ

โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า 4 นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมให้การต้อนรับ และ นำเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การนำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศสมาชิกองค์กรการประชุมอิสลาม และสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิม ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เพื่อให้รับทราบแนวทางการทำงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล โดยการนำของ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งการนำคณะบุคคลต่างๆ ลงพื้นที่มารับทราบข้อเท็จจริงนั้นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาซึ่งกระทำการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ไม่มีอะไรปิดบัง

นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่น ที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเสมอภาค และต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น เมื่อทุกฝ่ายเข้ามาสัมผัสก็จะเกิดความเชื่อมั่น และนำข้อมูลที่ได้รับไปบอกต่อแก่ประชาชาคมโลกได้ ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้มีโอกาสเดินทางไปยังกลุ่มประเทศโลกมุสลิมตลอดจนการเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มประเทศสมาชิกองค์กรการประชุมอิสลาม ทำให้ทราบว่าทุกประเทศมีความเข้าใจถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

ตนยังได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และเข้าพบกับท่านอิหม่ามซึ่งเป็นประมุขสูงทางด้านศาสนาอิสลาม ได้ให้แนวความคิดว่าใครก็ตามที่เป็นพลเมืองของประเทศไทย ต้องมีหน้าที่ในการได้รับสิทธิเสรีภาพ และขณะเดียวกัน ต้องมีหน้าที่ในการจรรโลงสังคม และทุกคนต้องมีหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศนั้นๆ ต้องทำประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งการดำเนินชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลาย สามารถอยู่ร่วมกันกันโดยสันติวิธี ต้องสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น ซึ่งการใช้ความรุนแรงนั้นไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน แต่ทุกคนต้องร่วมมือกันในการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นมาในพื้นที่โดยเร็ว






กำลังโหลดความคิดเห็น