ยะลา - ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงคืบหน้าคดีสำคัญๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนคดียิงชาวบ้านในมัสยิดฟุรกอน จ.นราธิวาส สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้แล้ว 1 ราย
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมรวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้ายะลา พร้อมด้วย พล.ต.สนอง บุญซื่อ รองผู้บัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหาร พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน และความคืบหน้าคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมี ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสังกัด คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 - ก.ค.52 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว จำนวน 9,847 ครั้ง เป็นเหตุยิงจำนวน 5,162 ครั้ง ระเบิดจำนวน 1,612 ครั้ง วางเพลิงจำนวน 1,403 ครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ จำนวน 3,131 คน บาดเจ็บ จำนวน 4,414 คน
โดยมีเป้าหมายที่มีความอ่อนแอ เช่น ครู พระสงฆ์ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยผลการปฏิบัติหน้าที่สำคัญ เช่น การสอบสวนคดี ความมั่นคง ตั้งแต่ปี 2547 - ก.ค.52 มีคดีอาญาเกิดขึ้นรวม 56,863 คดี เป็นคดีความมั่นคง จำนวน 6,683 คดี รู้ตัวผู้กระทำผิดจำนวน 1,531 คดี การออกหมายจับคดีความมั่นคง สามารถออกหมายจับได้แล้ว จำนวน 7,001 หมาย แยกเป็นหมาย ป.วิอาญา จำนวน 3,293 หมาย และหมาย พ.ร.ก จำนวน 3,708 หมาย ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้รวม จำนวน 4,076 หมาย แยกเป็นหมาย ป.วิอาญา จำนวน 1,399 หมาย และหมาย พ.ร.ก.จำนวน 2,677 หมาย
การตรวจยึดอาวุธปืนจำนวน 316 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 มากที่สุด 89 กระบอก เอชเค HK จำนวน 12 กระบอก และอาก้า AK-47 จำนวน 47 กระบอก นอกจากนั้นยังมีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย การปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ การตรวจพิสูจน์ทราบเครือข่าย การทำงานมวลชน และอื่นๆ และในวันนี้มีแนวร่วมที่กลับใจเข้ามอบตัว จำนวน 5 คน คือ นายบาระ เจ๊ะโวะ อายุ 23 ปี นายอิบรอเฮม ลาเต๊ะ อายุ 27 ปี นายซอเล มูซอ อายุ 19 ปี นายรอสลี หง๊ะเอียด อายุ 20 ปี นายมาฮาปัน เจ๊ะโวะ อายุ 22 ปี ทั้งหมดอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยึดแนวทางการสืบสวนสอบสวน ที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ตอบสังคม ประชาชนได้ และหลักฐานจะต้องเชื่อมโยงการสอบสวน โดยยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ทราบคนร้าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้
โดยเฉพาะในส่วนของคดียิงราษฎรในมัสยิดอัลฟุรกอนที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับ นายสุทธิรักษ์ คงสุวรรณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ม.10 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบก่อเหตุปล้นและฆ่ามาหลายคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจับกุมตัว โดยทางฝ่ายสอบสวนยืนยันให้ทราบว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเป็นเหตุส่วนตัวเท่านั้น และไม่ได้เชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ในการให้ข้อมูลเป็นอย่างดี
ส่วนคดีในพื้นที่ จ.ยะลา เช่น คดียิงครูโรงเรียนบ้านพอเม็ง ใน อ.รามัน เสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างออกหมายจับ นายซัมสูรี ปะน๊ะ คดีระเบิด จนท.ทหาร ฉก.ยะลา ที่ อ.ยะหา อยู่ระหว่างติดตามจับกุม นายสุฟยัน เจะ และคดี ยิงพระ ที่ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา อยู่ระหว่างการออกหมายจับนายฮิสมี ยะลาแป
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำมาตรการเข้ม ตั้งจุดตรวจและจุดสกัดเป็นพิเศษในพื้นที่ เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามก่อเหตุ ตอบโต้ทุกรูปแบบโดยไม่เลือกเป้าหมายหวังให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ในส่วนของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองนั้น ได้เน้นย้ำในการทำงานด้วยความจริงใจ ยึดมั่นในกฎหมาย และหลักมนุษยชนเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แ่ก่ประชาชนในพื้นที่