นายธนวัน ทองสุกโชติ จัดหางานจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหลีเข้าเมืองในภูเก็ต ว่า จากการที่รัฐบาลเปิดให้แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย มาขึ้นทะเบียนใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ค.2552 ที่ผ่านมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2552 ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น ปรากฏว่า มีนายจ้างได้แจ้งความต้องการใช้แรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 7,790 ราย มีความต้องการแรงงานทั้งสิ้น 109,389 คน โดยแบ่งเป็น พม่า 108,847 คน ลาว 503 คน และกัมพูชา 39 คน
โดยหลังจากที่เปิดให้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งได้หมดเขตแล้วเมื่อสิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ในภูเก็ตทั้ง 3 อำเภอ มีแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนใหม่ประมาณ 50,000 คน และที่มีการต่อใบอนุญาตงานทำงานอยู่แล้ว 24,000 คน ทำให้ขณะนี้แรงานต่างด้าวในภูเก็ตมีประมาณ 74,000 คน โดยแรงงานต่างด้าวที่มาขึ้นทะเบียนใหม่นั้นจะต้องดำเนินการตรวจสุขภาพและดำเนินการในขั้นตอนการออกใบอนุญาตทำงานให้เสร็จภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 นี้ ซึ่งในจุดนี้ทางสำนักงานจัดหางานได้เตรียมแผนที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จให้ทันตามเวลาที่กำหนด
ส่วนแรงงานที่นายจ้างต้องการเพิ่มอีกประมาณ 30,000 กว่ารายนั้น จะต้องดำเนินการนำเข้ามาอย่างถูกต้องตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะใช้ในลักษณะของการให้ประเทศต้นทางออกเป็นพาสพอร์ตขอออกมาทำงานในต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทั้งในส่วนของพม่า ลาว และกัมพูชา แล้ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ยังไม่มาขึ้นทะเบียนในภูเก็ตนั้นยังมีอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่า ยังมีอยู่พอๆ กับความต้องการใช้แรงงานในภูเก็ต เพราะแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองบางส่วนนั้น เกรงว่าเมื่อมีการพิสูจน์สัญชาติแล้วรัฐบาลของประเทศนั้นๆจะไม่รับรองจะต้องถูกส่งกลับ ประกอบมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วแนะนำให้แรงงานดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนทั้งหมดจะได้ทำงานให้ถูกต้องไม่ต้องคอยหลบการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“หากภูเก็ตมีแรงงานต่างด้าวถึง 100,000 คน จะอยู่ในสัดส่วนคนไทย 5 คน ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน ซึ่งถือว่าสูงมาก หากเป็นไปได้อยากจะให้นายจ้างจ้างแรงงานคนไทยมากกว่าจ้างแรงงานต่างด้าว”
โดยหลังจากที่เปิดให้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งได้หมดเขตแล้วเมื่อสิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ในภูเก็ตทั้ง 3 อำเภอ มีแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนใหม่ประมาณ 50,000 คน และที่มีการต่อใบอนุญาตงานทำงานอยู่แล้ว 24,000 คน ทำให้ขณะนี้แรงานต่างด้าวในภูเก็ตมีประมาณ 74,000 คน โดยแรงงานต่างด้าวที่มาขึ้นทะเบียนใหม่นั้นจะต้องดำเนินการตรวจสุขภาพและดำเนินการในขั้นตอนการออกใบอนุญาตทำงานให้เสร็จภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 นี้ ซึ่งในจุดนี้ทางสำนักงานจัดหางานได้เตรียมแผนที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จให้ทันตามเวลาที่กำหนด
ส่วนแรงงานที่นายจ้างต้องการเพิ่มอีกประมาณ 30,000 กว่ารายนั้น จะต้องดำเนินการนำเข้ามาอย่างถูกต้องตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะใช้ในลักษณะของการให้ประเทศต้นทางออกเป็นพาสพอร์ตขอออกมาทำงานในต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการทั้งในส่วนของพม่า ลาว และกัมพูชา แล้ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ยังไม่มาขึ้นทะเบียนในภูเก็ตนั้นยังมีอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่า ยังมีอยู่พอๆ กับความต้องการใช้แรงงานในภูเก็ต เพราะแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองบางส่วนนั้น เกรงว่าเมื่อมีการพิสูจน์สัญชาติแล้วรัฐบาลของประเทศนั้นๆจะไม่รับรองจะต้องถูกส่งกลับ ประกอบมีปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วแนะนำให้แรงงานดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนทั้งหมดจะได้ทำงานให้ถูกต้องไม่ต้องคอยหลบการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“หากภูเก็ตมีแรงงานต่างด้าวถึง 100,000 คน จะอยู่ในสัดส่วนคนไทย 5 คน ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน ซึ่งถือว่าสูงมาก หากเป็นไปได้อยากจะให้นายจ้างจ้างแรงงานคนไทยมากกว่าจ้างแรงงานต่างด้าว”
