ตรัง - ครอบครัวตระกูลตาเพชร เหยื่อ 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตรังหลังคดีไม่คืบในคดีรถชนตายเรียบ 4 ศพ เพราะคู่กรณีนามสกุลเดียวกับผู้บังคับการตรัง
จากกรณีที่คุณพ่อ คุณแม่ และญาติๆ ตระกูลตาเพชร ที่ได้สูญเสียบุตรหลานไปจำนวน 4 คน จาก 3 ครอบครัว เซ่นเหยื่อ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2552 ที่ผ่านม ประกอบด้วย นางสาวผกาวรรณ ตาเพชร อายุ 15 ปี เด็กหญิงจินดาภรณ์ ตาเพชร อายุ 9 ปี เด็กหญิงกานต์ธิดา ตาเพชร อายุ 8 ปี และเด็กชายราเมศน์ ตาเพชร อายุ 6 ปี ทั้งหมดเป็นชาวตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และเป็นญาติพี่น้องกัน โดยเฉพาะเด็กหญิงกานต์ธิดา กับเด็กชายราเมศน์ นั้น เป็นพี่น้องคลานตามกันมา เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา บนถนนสายเพชรเกษม ตรัง-ห้วยยอด บริเวณหน้าสนามกอล์ฟศรีตรัง กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องผ่านมากว่า 100 วันแล้ว ในเรื่องของการดำเนินคดีกับ นายคมวิชช์ จิตพิทักษ์ คนขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน ฟอร์นเทีย สีดำ หมายเลขทะเบียน บว-522 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถคู่กรณีที่แหกโค้งมาชนรถของครอบครัวตระกูลตาเพชร ไม่มีความคืบหน้า จึงได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อจากนั้น ญาติๆ ก็ได้รวมตัวกันขึ้นรถเดินทางไปที่ สภ.ห้วยยอด และเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพื่อให้เร่งรัดคดี เพราะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าข้างฝ่ายคนที่ขับรถแหกโค้งมาชน เนื่องจากคนที่นั่งมาด้วยในรถคู่กรณีคือ นายภูวสิษฎ์ จันทร์สว่าง รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 2 ซึ่งเป็นญาติและนามสกุลเดียวกับ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง
โดยเฉพาะกรณีที่มีการทำบันทึกตกลงถึง 2 ครั้ง ว่า ขอให้มีการชดใช้ค่าสินไหมและค่าเสียหาย ทั้งหมดศพละ 200,000 บาท รวมจำนวน 800,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าเสียหายในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บและค่าซ่อมรถ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้รับการดำเนินการ และเมื่อสอบถามไปยังทางร้อยเวรเจ้าของคดี ทางญาติกลับรู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเกิดการร้องเรียนตามมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค.) นายไพโรจน์ จันทโชติ คุณพ่อบุญธรรมของ นางสาวผกาวรรณ ตาเพชร 1 ในเหยื่อของผู้สูญเสีย กล่าวถึงผลการเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยืนยันว่า แม้คนที่นั่งมาในรถที่แหกโค้งมาชนกับครอบครัวตาเพชร จะมีนามสกุลเดียวกับตนเอง แต่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และที่สำคัญอย่างที่ทุกคนเข้าใจคนนามสกุลเดียวกัน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ในที่นี้ยืนยันไม่ได้รู้จักกัน และจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ อยากจะให้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้นัดเจรจากันอีกครั้ง แต่ทางฝ่ายตนซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกมาหลายครั้งแล้ว แม้จะมีความหวังขึ้นมาบ้างว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ไม่กล้าเชื่อถือตำรวจ จึงยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจากับคู่กรณีอีกต่อไป ขอให้ทางตำรวจรีบสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลเป็นการด่วน โดย ร.ต.ท.วิษณุ จันทร์พล ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยยอด ก็รับปากว่า ในสัปดาห์หน้าจะเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลให้ พร้อมบอกว่าคงใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน คงจะเรียบร้อยในที่นี้ทางศาลอาจจะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาตกลงกันอีกก็ได้ ซึ่งตนก็บอกว่าถ้าเจรจาในชั้นศาล ก็พร้อมจะเจรจาด้วยเพราะมีศาลเป็นพยาน