xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้สภาเร่งตั้ง กมธ.แต่พ่ายเสียงพลังแม้ว ยื้อเวลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชป. จี้สภาเร่งตั้งกมธ.31 ชุด แต่พ่ายเสียงข้างมากยื้อเวลาหวังเพิ่มจำนวนคณะเพื่อแก่ปัญหาภายในพปช. "สุวโรช" แฉ นามสกุล”แสงสุวรรณ”ฮุบไม้ขนาด3คนโอบ ตัวอย่างหนึ่งที่ไร้กมธ.ตรวจสอบ

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ได้หารือต่อที่ประชุมกรณีเรื่องที่มีใบปลิว “วีรบุรุษเมียกู” วางอยู่ตามจุดต่างๆในรัฐสภา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งขอให้ประธานตรวจสอบที่มาและหาทางสกัดกั้นไม่ให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก

นาย สุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลสืบเนื่องมาจากฝ่ายนิติบัญญัติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการโดยเร็วทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติการไม่สามารถตรวจสอบฝ่ายบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพใน ซึ่งตนมีเอกสารหลักฐานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ยึดไม้ขนาดใหญ่ ขนาด 3 คนโอบ จากบ้านหลังหนึ่งในอ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นของนายวันชัย แสงสุวรรณ แต่ปรากฎว่าการจับกุมดังกล่าวไม่มีการลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด ตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะนายวันชัย นามสกุลแสงสุวรรณหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่มีการปล่อยปละละเลย เหมือนมีผู้มีอำนาจสั่งการ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญขึ้น ตนจึงไม่ทราบจะนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับใคร

นายสุวโรช กล่าวว่า นอกจากนี้ขอตั้งข้อสังเกตไปถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าการเลือกตั้งส.ว.ที่ผ่านมา มีการนำเอาสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง โดยเฉพาะในค่ายทหารเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร ซึ่งใช้วิธีการไปบอกกับพ่อแม่ของทหารเกณฑ์ว่าหากต้องการให้ลูกกลับภูมิลำเนาโดยเร็ว ต้องเลือกผู้สมัครส.ว.คนหนึ่ง ดังนั้นขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และป้องกันอย่าให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตามนาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พานิชย์ ใช้สิทธิพาดพิงชี้แจงว่า ยอมรับว่านามสกุลของตนเป็นนามสกุลโหลที่มีคนใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขอยืนยันว่าคนที่กระทำผิดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนแต่อย่างใด และขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามเมื่อมีเรื่องนี้เกิดขึ้นตนจะตรวจสอบว่าคนนามสกุล “แสงสุวรรณ”มีกี่พัน กี่หมื่นคน แต่ “แสงสุวรรณ”ของตนมีพี่ชายของตนคนเดียวที่เป็นญาติซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน

จากนั้น ประธานสภาได้ให้สมาชิกลงมติการตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหาราคาปุ๋ย และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา มีส.ส. ไม่ครบองค์ประชุมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้คัดค้านในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าหากมีการลงมติใหม่จะเกิดความไม่เหมาะสม เพราะประธานมีสิทธิที่จะไม่ให้สมาชิกลงมติในวันที่ 28 ก.พ. เนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม แต่ประธานก็ยังให้ลงมติ ทั้งๆที่ก็รับทราบปัญหานี้ดีอยู่แล้วและสภาผู้แทนฯก็เคยวิพากษ์วิจารณ์กรณีเดียวกันที่เกิดขึ้นกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)

ขณะที่นาง รังสิมา รอดรัศมี ส.ส. สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นวงจรอุบาทว์และจะไม่มีบรรทัดฐานจนกว่าจะมีการยุบสภา แต่ก็มีส.ส.ลุกขึ้นประท้วงและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แต่นายสมศักดิ์ ก็ยังยืนยันที่จะให้ส.ส.ลงมติ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ก็ยังเห็นตามมติการประชุมครั้งที่แล้ว

อย่างไรก็ตามก่อนเข้าวาระรับทราบรายงานเรื่อง การพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ.2550 (กพร.) นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชาธิปัตย์ ได้ขอเปลี่ยนวาระการประชุมโดยให้เลื่อนการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาทั้ง 32 คณะ มาพิจารณาก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องต่อเนื่องที่มาจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญเพื่อที่จะได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

แต่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ได้ลุกขึ้นคัดค้าน โดยระบุว่ามีส.ส. หลายคนต้องการเพิ่มจำนวนคณะกรรมาธิการให้มีมากขึ้น ส่วนที่มีการกังวลเรื่องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทางออกรัฐสภาก็มีอยู่แล้ว โดยการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้น

ด้านนาย สุวโรช กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะรอไปอีกนานเท่าไหร่ กว่าจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งส.ส. จะต้องมีความสำนึกเป็นพิเศษที่จะต้องแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่เมื่อไม่มีกรรมาธิการก็เหมือนรถที่วิ่งไม่เต็มสูบ และตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดส.ส. พรรครัฐบาลไม่เห็นด้วยที่จะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา

ขณะที่นายกุเทพ ใสกระจ่าง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กรอบการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติต้องอาศัยข้อบังคับการประชุมสภาซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิบัติมาทุกสมัย แต่ขณะนี้การเมืองได้เปลี่ยนรูปแบบไป โดยมีการเร่งรัดการตั้งกรรมาธิการมากขึ้น ซึ่งหากจะเร่งรัด ตนเห็นว่าควรจะเร่งรัดคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างข้อบังคับฯ ไม่ใช่มาเร่งรัดกันในการประชุมสภาแบบนี้ ฉะนั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้อ้างธรรมเนียมเดิมๆว่าเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ตนก็พอเข้าใจได้ แต่ทำให้การประชุมสภาเสียเวลา ทั้งนี้ขอยืนยันว่า พรรคพลังประชาชนไม่เคยปิดช่องทางการตรวจสอบเพื่อจะแก้ปัญหาประชาชน แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมีรัฐบาลเงา ซึ่งขณะที่ยังไม่มีกรรมาธิการรัฐบาลเงาของประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการถกเถียงกันกว่า 2 ชั่วโมง ในที่สุดประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัยให้ที่ประชุมลงมติ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรที่จะกลับเข้าสู่วาระตามปกติ

นายชินวรณ์ แถลงว่า ตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาให้รับรองเรื่องบทบาทอำนาจหน้าที่ อย่าเอาเสียงข้างมามาเกี่ยวโยงกับการทำหน้าที่ของสภา เพราะกรรมาธิการถือเป็นกลไกสำคัญในการทำหน้าที่ตรวจสอบ ตนตังข้อสังเกตเหตุที่ที่ประชุมได้มีมติไม่เลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวขึ้นพิจารณาด้วยกัน3 ประเด็น คือ1. เกิดจากความไม่พร้อมของฝ่ายรัฐบาลจึงส่งผลให้ไม่มีการเลื่อนระเบียบดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา 2 เกรงว่ารัฐบาลจะยื้อเวลาในการจัดตั้งกรรมาธิการต่อไป เพราะวันนี้ก็ไม่ได้รับคำตอบในการแต่งตั้งกรรมาธิการตามข้อตกลงหรือไม่ และการให้คณะกรรมาธิการวิสามัญไปตำลงในเรื่องข้อบังคับให้แล้วเสร็จวันนี้ก็ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ และ3 การปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาในฐานะที่เคยมานั่งร่วมประชุมด้วยในการจัดตั้งกรรมาธิการ แต่กลับไม่มีความชัดเจนที่จะให้เลื่อน เหมือนรู้ว่าฝ่ายรัฐบาลไม่มีความพร้อม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ประธานอาจเกิดความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าประธานจะช่วยเร่งรัดการจัดตั้งกรรมาธิการโดยเร็ว จึงอยากให้ประธานดำรงความยุติธรรม เป็นกลางอย่างแท้จริง

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ทราบเป็นการภายในว่ามีรัฐบาลบางส่วนไม่พอใจในกรรมาธิการที่มีการจัดสรรไป ไม่ได้ดั่งใจที่ตัวเองต้องการแลตามกระแสข่าวที่ออกมา รัฐบาลอยากจะเพิ่มกรรมาธิการให้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้พวกเราไม่เห็นด้วย เพราะกรรมาธิการ 32 คณะที่ได้ตกลงกันเพียงพอต่อภารกิจของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลได้ การเพิ่มกรรมาธิการ เพียงเพื่อสนองต่อจำนวน ส.ส.รัฐบาล เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ รวมทั้งยังไม่รู้เลยว่ากรรมาธิการ ที่จะเพิ่มขึ้นมาใช้ชื่อว่าอะไร สิ่งสำคัญคือตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเสียงข้างมาก คำนึงถึงค่าใช้จ่ายงบประมาณของสภา การไปเพิ่มกรรมาธิการฯ ที่ไม่มีบทบาทที่สำคัญ อาจจะเกิดปัญหาต่อไปในอนาคตได้ อย่างไรก็ตามหวังว่ารัฐบาลคงจะรับฟังความคิดเห็นนี้ไปพิจารณา












กำลังโหลดความคิดเห็น