ตรัง - เลขาธิการมูลนิธิพระคชบาล จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมารับช้างพังนาตาลีที่เคยก่อเหตุอาละวาดฆ่าคน 7 ศพ ไปดูแลแล้ว ขณะที่ชาวบ้านอำเภอปะเหลียนต่างโล่งใจไปตามๆ กัน
จากกรณีที่ช้างพังนาตาลี อายุ 35 ปี น้ำหนักกว่า 3 ตัน ซึ่งเป็นของนายสมโชค ชูบาล อายุ 55 ปี สมาชิกสภา อบต.หมู่ที่ 7 ตำบลแหลมสอม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ได้ก่อเหตุไล่กระทืบชาวบ้านที่กำลังกรีดยางพารา ในพื้นที่ตำบลแหลมสอม และตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จนเสียชีวิตคืนเดียวกันถึง 3 ศพ เมื่อคืนวันที่ 1 กรกฎาคม 2552
อีกทั้งก่อนหน้านี้ ช้างพังนาตาลีก็ยังเคยมีประวัติไล่กระทืบผู้คนหลายครั้ง และเมื่อรวมกับยอดล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 7 ศพ แต่ต่อมาได้มีการพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเจรจาขายช้างพังนาตาลี ให้กับมูลนิธิพระคชบาล (วังช้างอยุธยา) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปบำบัดรักษานั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ค.) นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย หรือขาว วังช้าง เลขาธิการมูลนิธิพระคชบาล ได้เดินทางมาพร้อมกับควาญช้างอีก 3 คน นำเงินที่ได้มาจากการบริจาคช่วยเหลือของหลายฝ่าย ผ่านมูลนิธิพระคชบาล จำนวน 600,000 บาท มามอบให้กับนายสมโชค เจ้าของช้างพังนาตาลี ณ วัดหน้าลา หมู่ที่ 7 ตำบลแหลมสอม อำเภอปะเหลียน ซึ่งอยู่หลังบ้านของนายสมโชค และเป็นจุดล่ามช้างพังนาตาลี ในตอนกลางคืน
โดยมี พ.ต.อ.ภวัต ประชาญสิทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.ปะเหลียน พ.ต.ท.ประสงค์ ศรีวิมล สารวัตรใหญ่ สภ.บ้านหนองเอื้อง นายณรงค์ หนูเนียม ปลัดอำเภอปะเหลียน ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันเป็นสักขีพยานจำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนที่จะทำพิธีมอบและนำช้างขึ้นรถ นายอิทธิพันธ์ และควาญช้างได้ร่วมกันทำพิธีไหว้ครู บวงสรวงบังสกุลเป็นบังสกุลตาย เสมือนว่าช้างพังนาตาลี ได้ตายไปแล้ว
ส่วนช้างที่มีชีวิตอยู่จะถือเป็นตัวใหม่ ชื่อใหม่ ขอพรเทพยดาได้ติดตามไปปกปักรักษาช้างต่อไป พร้อมขอขมาลาโทษต่อดวงวิญญาณผู้วายชนม์ เพราะเชื่อว่าชาติก่อนคงมีเวรกรรมกันมา
นายอิทธิพันธ์ยืนยันว่า การซื้อช้างพังนาตาลีในครั้งนี้ เป็นไปในนามคนรักช้างแห่งประเทศไทย ผ่านมูลนิธิพระคชบาล โดยพระบัญชาของหม่อมเจ้าหญิงรังษีนพดล ยุคล ที่ทราบข่าวจากทีวี จึงมีพระบัญชาให้มูลนิธิยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วน และหม่อมเจ้าหญิงจะอยู่รอรับรับช้างพังนาตาลี ทันทีที่ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย จากนี้ไปช้างพังนาตาลี จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เหมือนลูกได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่มีความเหมาะสม จะได้ควาญช้างใหม่ และมีเพื่อนใหม่ ซึ่งเชื่อว่าช้างจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน ขอให้นายสมโชค และชาวตรังสบายใจ โดยทางมูลนิธิจะส่งข่าวคราวของช้างพังนาตาลี มาให้ชาวตรังได้รับทราบเป็นระยะๆ
นอกจากนั้นยังจะมีการตั้งชื่อใหม่ให้ช้างด้วย โดยคณะกรรมการของมูลนิธิพระคชบาล แต่ในใจของตนเองอยากให้ตั้งชื่อใหม่ว่า ช้างพังศรีตรัง แต่คงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมยืนยันว่า ช้างพังนาตาลี ยังสามารถแก้ไขพฤติกรรมที่ดุร้ายได้ เพราะจากการสืบประวัติของช้างพบว่า จริงๆ แล้วมิได้มีนิสัยดุร้าย แต่คงเป็นเพราะเกิดอาการตื่นคน และหวาดระแวงมากไป จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งช้างไทยควรอยู่ได้ด้วยคนไทย และเมื่อไปอยู่ยังปางช้างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คิดว่าจะมีอาการดีขึ้น เพราะมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับช้าง
นายสมโชค ชูบาล เจ้าของช้างพังนาตาลี ได้กล่าวขอบคุณมูลนิธิฯ ที่ช่วยทำให้ภารกิจของเขาทุเลาเบาบางลง เพราะหลังเกิดเรื่องทุกฝ่ายก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน รวมทั้งชาวบ้านใกล้เคียงถึง 4 ตำบลในอำเภอปะเหลียน แม้จะเสียดายเพราะรักเหมือนลูก แต่ก็ต้องยอม และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อช้างเชือกใหม่มาแทนหรือไม่
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอปะเหลียนที่ไปดูพิธีกันเป็นจำนวนมากต่างก็รู้สึกโล่งใจและสบายใจที่ไม่ต้องหวาดระแวงว่าช้างพังนาตาลีจะหลุดออกมาทำร้ายได้อีก และจะได้ออกไปกรีดยางพาราตามปกติ