นครศรีธรรมราช – หนูน้อยวัย 1 ขวบ 11 เดือน เสียชีวิตปริศนา หลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 4 วัน ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง ตำรวจเค้นแม่วัย 17 ปี สารภาพลูกถูกพ่อเลี้ยงโยนจากที่สูง แต่บังคับให้แจ้งว่าตกเตียงเพื่อหนีความผิด
วันนี้ (28 ก.ค.) ร.ต.ท.มนตรี วรรณคง ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากแพทย์เวร ตึกกุมารเวช 2 โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ว่า มีเด็กได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตในระหว่างการเข้ารักษาตัว จึงเข้าทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยภายในตึกดังกล่าวนั้น พบศพเด็กชายทราบชื่อต่อมา คือ ด.ช.ปฏิภาณ คงจันทร์ อายุ 1 ขวบ 11 เดือน มีที่อยู่ตามประวัติภูมิลำเนาเลขที่ 23 ม.3 ต.บางวัง อ.คุระบุรี จ.พังงา สภาพศพศีรษะบวม แขนมีรอยช้ำเป็นปื้น เบื้องต้นพบว่า สาเหตุการตายนั้นมาจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง รวมทั้งมีเลือดคั่งในสมอง
ร.ต.ท.มนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวนผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ เปิดเผยว่า จากข้อมูลในประวัติทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการซักสาเหตุของการบาดเจ็บก่อนเสียชีวิตนั้น พบว่า ทางญาติของเด็กได้ระบุว่า ด.ช.ปฏิภาณ ตกเตียงได้รับบาดเจ็บ และได้ถูกนำส่งมาเมื่อสัปดาห์ก่อนกระทั่งเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามต่อไปกลับได้ความว่า ด.ช.ปฏิภาณ ถูกพ่อเลี้ยงโยนจากที่สูงได้รับบาดเจ็บ และอ้างว่า ที่แจ้งประวัติสาเหตุการบาดเจ็บกับแพทย์เบื้องต้นเพราะถูกพ่อเลี้ยงของ ด.ช.ปฏิภาณ บังคับให้แจ้งสาเหตุเช่นนั้น เนื่องจากเกรงกลัวความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่า ทางมารดาของเด็กได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนเจ้าของท้องที่ดำเนินคดีแล้ว โดยพบว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในท้องที่ ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช โดยอยู่ในเขตอำนาจการสอบสวนของ สภ.ชะเมา ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ได้ทำรายงานการชันสูตรพลิกศพ และได้แจ้งไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุทราบตามขั้นตอน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.สุวรรณ ดำสิงห์ พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นนั้นได้รับแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้เกิดขึ้นราว 14.00 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านวังวัว ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตสอบสวนของ สภ.ชะเมา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบว่าบ้านมีลักษณะเป็นใต้ถุนสูงประมาณ 1 เมตรเศษ
“ในชั้นแรกนั้น นายจะเริง ทองนวล อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคุณตาของเด็กผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความพร้อมมารดาของเด็ก คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยทางตาของเด็กได้ตั้งข้อสงสัยว่า พ่อเลี้ยงของเด็ก คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เช่นกันมีเจตนาที่จะทำร้าย เนื่องจากสงสัยว่า น.ส.เอ จะปกปิดความจริงเพื่อช่วยเหลือนายบี”
พ.ต.ท.สุวรรณ ดำสิงห์ กล่าวต่อว่า แต่จากการพูดคุยกับ น.ส.เอ ในเบื้องต้นนั้น น.ส.เอ ได้เล่าให้ฟังว่า ได้แยกทางกับสามีเก่า และมามีสามีใหม่ คือ นายบี โดยมี ด.ช.ปฏิภาณ ติดมาด้วย เมื่อตกลงปลงใจอยู่กินกับนายบี ได้มาอาศัยอยู่กับนายบีที่บ้านของนายบี ใน ต.ช้างซ้าย นายบีจะชอบหยอกล้อลูกด้วยความรุนแรงเสมอ เช่น ตีก้น ตีแขนด้วยความรุนแรง ในวันที่เกิดเหตุนั้น นายบี ได้บอกกับ น.ส.เอ ว่า ลูกตกจากบ้าน มีอาการแน่นิ่ง เลือดออกทางปาก จึงรีบนำส่ง รพ.กระทั่งมาเสียชีวิต แต่เขาก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายบี
“ในการสอบสวนทั้งคู่นั้นขณะนี้กำลังประสานงานกับพนักงานอัยการ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสอบเยาวชน เนื่องจากทั้งฝ่ายมารดาของเด็กและพ่อเลี้ยงมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และเมื่อทางมารดาของเด็กได้ให้การกับพนักงานสอบสวนผู้ชันสูตรพลิกศพ ว่า นายบี เจตนาที่จะทำร้าย ด.ช.ปฏิภาณ ทางผมได้ออกหมายเรียกนายบีไปแล้ว เพื่อสอบสวนอย่างเร่งด่วนหาข้อเท็จจริงให้ได้ เขายังไม่ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งถ้าตามหมายเรียก เมื่อเขาไม่มานั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยหากพบว่าเจตนาทำร้าย นายบีจะถูกตั้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น หรือถ้าพบว่าเป็นการหยอกล้อจะเข้าลักษณะของการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขณะนี้กำลังเร่งหาข้อเท็จจริง รวมทั้งการสอบสวนในประเด็นของการแจ้งถึงสาเหตุของการบาดเจ็บเท็จที่โรงพยาบาลเนื่องจากถือว่าเป็นส่วนสำคัญในคดี” พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าว
วันนี้ (28 ก.ค.) ร.ต.ท.มนตรี วรรณคง ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากแพทย์เวร ตึกกุมารเวช 2 โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ว่า มีเด็กได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตในระหว่างการเข้ารักษาตัว จึงเข้าทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยภายในตึกดังกล่าวนั้น พบศพเด็กชายทราบชื่อต่อมา คือ ด.ช.ปฏิภาณ คงจันทร์ อายุ 1 ขวบ 11 เดือน มีที่อยู่ตามประวัติภูมิลำเนาเลขที่ 23 ม.3 ต.บางวัง อ.คุระบุรี จ.พังงา สภาพศพศีรษะบวม แขนมีรอยช้ำเป็นปื้น เบื้องต้นพบว่า สาเหตุการตายนั้นมาจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง รวมทั้งมีเลือดคั่งในสมอง
ร.ต.ท.มนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวนผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ เปิดเผยว่า จากข้อมูลในประวัติทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการซักสาเหตุของการบาดเจ็บก่อนเสียชีวิตนั้น พบว่า ทางญาติของเด็กได้ระบุว่า ด.ช.ปฏิภาณ ตกเตียงได้รับบาดเจ็บ และได้ถูกนำส่งมาเมื่อสัปดาห์ก่อนกระทั่งเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามต่อไปกลับได้ความว่า ด.ช.ปฏิภาณ ถูกพ่อเลี้ยงโยนจากที่สูงได้รับบาดเจ็บ และอ้างว่า ที่แจ้งประวัติสาเหตุการบาดเจ็บกับแพทย์เบื้องต้นเพราะถูกพ่อเลี้ยงของ ด.ช.ปฏิภาณ บังคับให้แจ้งสาเหตุเช่นนั้น เนื่องจากเกรงกลัวความผิด
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่า ทางมารดาของเด็กได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนเจ้าของท้องที่ดำเนินคดีแล้ว โดยพบว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในท้องที่ ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช โดยอยู่ในเขตอำนาจการสอบสวนของ สภ.ชะเมา ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ได้ทำรายงานการชันสูตรพลิกศพ และได้แจ้งไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุทราบตามขั้นตอน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.สุวรรณ ดำสิงห์ พนักงานสอบสวน สภ.ชะเมา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นนั้นได้รับแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้เกิดขึ้นราว 14.00 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านวังวัว ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตสอบสวนของ สภ.ชะเมา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบว่าบ้านมีลักษณะเป็นใต้ถุนสูงประมาณ 1 เมตรเศษ
“ในชั้นแรกนั้น นายจะเริง ทองนวล อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคุณตาของเด็กผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความพร้อมมารดาของเด็ก คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยทางตาของเด็กได้ตั้งข้อสงสัยว่า พ่อเลี้ยงของเด็ก คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เช่นกันมีเจตนาที่จะทำร้าย เนื่องจากสงสัยว่า น.ส.เอ จะปกปิดความจริงเพื่อช่วยเหลือนายบี”
พ.ต.ท.สุวรรณ ดำสิงห์ กล่าวต่อว่า แต่จากการพูดคุยกับ น.ส.เอ ในเบื้องต้นนั้น น.ส.เอ ได้เล่าให้ฟังว่า ได้แยกทางกับสามีเก่า และมามีสามีใหม่ คือ นายบี โดยมี ด.ช.ปฏิภาณ ติดมาด้วย เมื่อตกลงปลงใจอยู่กินกับนายบี ได้มาอาศัยอยู่กับนายบีที่บ้านของนายบี ใน ต.ช้างซ้าย นายบีจะชอบหยอกล้อลูกด้วยความรุนแรงเสมอ เช่น ตีก้น ตีแขนด้วยความรุนแรง ในวันที่เกิดเหตุนั้น นายบี ได้บอกกับ น.ส.เอ ว่า ลูกตกจากบ้าน มีอาการแน่นิ่ง เลือดออกทางปาก จึงรีบนำส่ง รพ.กระทั่งมาเสียชีวิต แต่เขาก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายบี
“ในการสอบสวนทั้งคู่นั้นขณะนี้กำลังประสานงานกับพนักงานอัยการ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสอบเยาวชน เนื่องจากทั้งฝ่ายมารดาของเด็กและพ่อเลี้ยงมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และเมื่อทางมารดาของเด็กได้ให้การกับพนักงานสอบสวนผู้ชันสูตรพลิกศพ ว่า นายบี เจตนาที่จะทำร้าย ด.ช.ปฏิภาณ ทางผมได้ออกหมายเรียกนายบีไปแล้ว เพื่อสอบสวนอย่างเร่งด่วนหาข้อเท็จจริงให้ได้ เขายังไม่ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งถ้าตามหมายเรียก เมื่อเขาไม่มานั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยหากพบว่าเจตนาทำร้าย นายบีจะถูกตั้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น หรือถ้าพบว่าเป็นการหยอกล้อจะเข้าลักษณะของการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขณะนี้กำลังเร่งหาข้อเท็จจริง รวมทั้งการสอบสวนในประเด็นของการแจ้งถึงสาเหตุของการบาดเจ็บเท็จที่โรงพยาบาลเนื่องจากถือว่าเป็นส่วนสำคัญในคดี” พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าว