xs
xsm
sm
md
lg

“ดิว เดอะสตาร์” ยันคลิปช่วยตัวเองของปลอม เผยตัวจริงขนไม่ดก-มีรอยสัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ดิว เดอะสตาร์ 4” ฉุนจัด ถูกระบุเป็นผู้ชายที่อยู่ในคลิปช่วยตัวเอง ยอมรับว่าหน้าคล้ายตนมาก แต่ยันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน วอนตัวการเลิกทำลายคนอื่นด้วยวิธีนี้ เผย เป็นเรื่องที่บั่นทอนการทำงานอย่างมาก หนำซ้ำพ่อแม่ยังถูกคนรอบข้างถาม ส่วนตัวเองไปไหนมาไหนก็ถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ

ต้องบอกว่าซวยซ้ำซวยซ้อนไม่เลิกจริงๆ สำหรับพระเอกและนักร้องหนุ่ม “ดิว เดอะสตาร์ 4” หรือ “อลงกรณ์ ต้นหนองดู่” ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอพิษภาพตัดต่อถ่ายนู้ดมาแล้ว ล่าสุดก็ยังโดนมือดีปล่อยคลิปหน้าเหมือน ขณะกำลังช่วยตัวเองออกมาสกัดดาวรุ่งอีก ครั้งนี้ก็เลยทำเอาเจ้าตัวเดือดปุดๆ ให้สัมภาษณ์แบบมีอารมณ์ พร้อมกับยืนยันเสียงแข็ง ว่าไม่ใช่ตนแน่นอน

“ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ คือผมอยากจะบอกว่าเลิกพยายามกันสักทีเหอะ มันไม่ใช่ผม คือมันไม่มีเหตุผลเลยครับที่เราจะต้องทำอะไรแบบนั้น มันไม่ใช่คลิปอะไรที่ดี ไม่ใช่เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมเลย”

“ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาพยายามเหลือเกิน ตั้งแต่ตอนนั้นที่มีรูปหลุดมาก่อน คือเป็นรูปใครไม่รู้ถ่ายนู้ดแล้วตัดต่อหน้าผมลงไป ผมก็อะไรเนี่ย เซ็งเลย เซ็งตั้งแต่ตอนนั้น แต่ว่าผมก็ปล่อยไป ไม่เป็นไร เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่เรา แล้วตอนนี้มีคลิปหน้าเหมือนมาอีก ส่วนตัวผมยังไม่ได้ดูนะ ผมเห็นแต่รูปที่ลงในหนังสือ คือละม้ายแต่ว่าไม่เหมือน ผมมองครั้งแรกก็ว่าคล้ายๆ นะ แต่ว่าดูดีๆ มันจะไม่เหมือนด้วยโครงหน้าและอะไรต่างๆ ผมรู้”

“คือเขาไม่มีรอยสัก แต่ผมมีรอยสักทั้ง 2 แขน และเคราผมไม่ได้ดกแบบนั้น ผมสักมานานแล้วครับ ตั้งแต่อยู่ที่เชียงใหม่ประมาณ 3-4 ปีได้แล้ว ไม่ใช่แน่นอนครับ ยังไงก็ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน คืออยากให้เลิกทำอะไรพวกนี้สักที เพราะผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สร้างสรรค์”

เผย ตั้งแต่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทั้งตนและครอบครัวเจอผลกระทบเยอะมาก แต่ตนไม่คิดจะตามตัวต้นตอ แต่แอบขู่ว่าถ้าเป็นคนอื่นรับรองโดนจับได้แน่นอน

“ผลกระทบมีกับคนรอบข้างครับ คนใกล้ตัวของเรา ซึ่งถามว่าเครียดมั้ยมันก็ประมาณนึง ผมแคร์คนรอบข้างมากกว่า คุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่อยากถาม เขาก็ไม่กล้าถามเราว่าใช่ลูกมั้ย คือมันไม่ใช่แน่นอน พ่อแม่เขาก็ไม่กล้าถาม เขารู้ว่าเราทำงานเหนื่อยอยู่แล้ว เรื่องอะไรแบบนี้เขาก็ปล่อยๆ ไป เพราะเขาก็รู้ว่ายังไงก็ไม่ใช่เราอยู่แล้ว พ่อแม่รู้ว่าเราเป็นคนยังไง คือเราเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็ก คือเราไม่มาทำอะไรเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”

“ส่วนตัวผมเองไม่ได้ซีเรียสมาก แต่ผมซีเรียสที่คนใกล้ตัวผม คุณพ่อ คุณแม่ ผมซีเรียสที่ว่าทุกคนต้องมาถามคุณพ่อคุณแม่ผมว่าตกลงใช่ดิวมั้ย ทำไมดิวต้องทำแบบนั้น ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ผมนะครับ คือผมเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้ว ถ้าเป็นผมจริง ผมก็จะออกมายอมรับว่าเนี่ยคือผม แต่มันไม่ใช่(หัวเราะ)”

“ตอนนี้ก็ยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อแม่เลยครับ เพราะผมไม่มีเวลา ทำงานทุกวันเลย แต่ผมเชื่อว่าพ่อแม่เขารู้ แต่เขาไม่ถามให้เราคิดมากจนไม่มีสมาธิในการทำงาน ทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เรียกถามครับ ฝ่ายพีอาร์ก็ถามมาว่าตกลงยังไงคลิปนี้ ผมก็บอกว่าไม่ใช่ พีอาร์ก็ถามจะต้องแถลงข่าวมั้ย ผมก็บอกว่าไม่จำเป็น จะแถลงข่าวทำไม เมื่อมันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ คือเราจะไปจับมือใครดมล่ะ เขาอยู่ที่มืดก็ปล่อยเขาไปเถอะ ทุกวันนี้เราก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ของเราต่อไปดีกว่า”

“ผมอยากจะให้เลิกพยายามกันได้แล้ว เพราะว่าของอย่างนี้มันทำไปเพื่อความสนุกสนานของคนบางคน แต่ว่าผมไม่ได้สนุกด้วยสักหน่อย และโอเคส่วนตัวผมไม่ถือสา ผมไม่โกรธ ไม่ว่า แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่เขาถือสาขึ้นมา ถ้าเขาไม่ยอมและเขาตามคุณน่ะเขาตามได้นะครับ ว่าใครเป็นคนปล่อย คุณจะเดือดร้อนนะครับ ผมอยากจะเตือนไว้ก่อน”

“แต่สำหรับผมไม่ตามครับ เพราะว่ามันไม่ใช่เรา เราก็ปล่อยไป แล้วก็ขอให้พอเถอะ มีคนจะทำลายชื่อเสียงรึเปล่าผมไม่รู้ครับ แต่ว่าทุกวันนี้เราทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว ผมคงไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องพวกนี้ ไม่มีเวลาบริโภคสื่อพวกนี้อยู่แล้ว ซึ่งคนที่ได้รับรู้คือประชาชนส่วนใหญ่ และคนรอบตัวผมพ่อแม่ญาติพี่น้องผม ผมไม่ได้รับรู้เรื่องราวนี้หรอก แต่ผมก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องมานั่งรับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่อง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น”

ยอมรับว่าฉุนจัด เพราะทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน และทำให้ตนเองรู้สึกบั่นทอนในการทำงานมาก

“ยอมรับว่าฉุนครับ ที่ว่าผมไม่อยากให้คนรอบข้างผมรู้สึกไม่ดี รู้สึกว่าเฮ้ยใช่รึเปล่า แล้วมันไม่ใช่ ทุกคนรอบข้างผมนอยด์(Paranoid) ไปหมดเลยว่าใช่รึเปล่า ไม่ใช่รึเปล่า แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีใครกล้าถาม แต่ว่าก็จะมีคนมาบอกว่าคนนั้นคนนี้ถาม ซึ่งทุกวันนี้ผมทำงานถ่ายละครทุกวัน ถ่ายเช้าเสร็จดึกคือเหนื่อยมาก ผมต้องการกำลังใจ และพอมาโดนเรื่องอะไรแบบนี้มันบั่นทอนความรู้สึกเรา(ถอนหายใจ) ทำงานก็เหนื่อยพออยู่แล้ว ต้องมาเจออะไรอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องใช่ราว”

“ตอนที่โดนครั้งแรกก็ขำๆ ครับ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ขำแล้ว เริ่มซีเรียสขึ้นมานิดนึง ผมอยากให้พอเถอะ ไม่รู้ว่าเขาพยายามทำอะไรให้ผมไปในแนวนี้ทำไมมากมาย มันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องถ่าย ทำไมต้องลง ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

ตัดพ้อต่อไปคงไม่มีอะไรที่แย่กว่านี้ออกมาอีกแล้ว เพราะแค่นี้ก็แย่สุดๆ เท่าที่เคยเจอมาแล้ว

“ผมว่าคงไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกแล้วมั้ง อันนี้มันก็แย่นะ ทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนมอง แล้วจะมีมองหลายแบบ คือมองแบบเฮ้ยนั่นดิว กับมองอีกแบบนั่นไงคนนี้ๆ คือเราเจอสายตาอย่างนี้บางทีเราก็เครียดนะครับ ส่วนตัวผมผมบอกตรงๆ นะผมลูกผู้ชายพอ”

“จริงๆ แล้วชีวิตผมไม่ได้ต้องการที่จะมาเป็นแบบนี้ ผมอยากเป็นมนุษย์ธรรมดา คนธรรมดาที่ทำงานโดยสุจริต หาเงิน คือความต้องการของผมคือทำงาน เก็บเงินเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่แค่นี้ แต่ทุกวันนี้ผมมาเป็นแบบนี้ มีคนสนใจมากขึ้น แต่อยากให้มีแต่เรื่องดีๆ มากกว่า ถ้าเป็นเรื่องไม่ดีแบบนี้คนมองด้วยสายตาว่าคนนี้แน่เลย ใช่แน่เลยดิว เดอะสตาร์ คือมันไม่ดีน่ะครับ”

“ก็อยากจะบอกคนที่ทำนะครับ ว่าพอเถอะ ยังไงก็ขอให้ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้มันถูกต้อง ให้มันถูกทางหน่อย ให้มันเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อคนอื่นและก็ต่อสังคมนิดนึง เพราะว่าทุกวันนี้คนใช้สื่ออะไรพวกนี้ผิดเยอะ ใช้ไปในทางที่ผิดซะส่วนใหญ่ ผมก็เป็นห่วงหลายๆ คน ส่วนตัวผมไม่ว่าอะไร ไม่อะไรใครอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ขอให้หยุดดีกว่า มันไม่ได้ส่งผลดี และก็ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่เป็นแบบผม ถ้าคนอื่นเขาไม่ยอม คุณอาจจะเดือดร้อนได้ ก็ฝากแค่นี้แล้วกัน ยังไงก็ขอเถอะครับ”

***



จ๊าก! คลิปหน้าเหมือน “ดิว เดอะสตาร์4” ช่วยตัวเองโจ้งๆ
ขอบคุณภาพจากกอสซิปสตาร์

กำลังโหลดความคิดเห็น