ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เอดส์ภูเก็ตพุ่งเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ อันดับ 2 ของประเทศ พบวัยรุ่นเสี่ยงสูงมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน ขณะกลุ่มผู้ขายบริการทางเพศ ทั้งชายและหญิง มีมากกว่า 7 พันคน เผย วัยรุ่นภูเก็ตต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลจากการทำแท้งเถื่อนเดือนละกว่า 30 คน
นายแพทย์ พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคเอดส์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีรายงานผู้ป่วยเอดส์ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี จากสถานบริการทั้งภาครัฐและเอกชนตั้งแต่ พ.ศ.2532-30 มิ.ย.2552 รวมทั้งสิ้น 6,426 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1,744 ราย โดย แยกเป็น ผู้ป่วยเอดส์จำนวน 3,700 ราย เสียชีวิตจำนวน 1,599 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการจำนวน804 ราย เสียชีวิตจำนวน 131 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 1,922 ราย เสียชีวิต 14 ราย
ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเอดส์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่อแสนจำนวนประชากร พบว่า มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ และมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดย 10 อันดับแรกที่มีผู้ป่วยสูงสุด ในปี 2552 ประกอบด้วย พะเยา ภูเก็ต จันทบุรี ระนอง ชัยนาท นครสวรรค์ อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพฯ และ ศรีสะเกษ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อไปว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เปลี่ยนคู่นอนบ่อย โดยไม่ป้องกัน และไม่ใช้ถุงอย่างอนามัย นอกจากนั้น ปัจจุบันนี้ยังมีค่านิยมในกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงที่จะล่าแต้มการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเพื่ออวดกันในกลุ่ม ซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิด แต่ก็มีในกลุ่มวัยรุ่น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจากการสำรวจ พบว่า มีกลุ่มผู้ขายบริการทางเพศทั้งชายและหญิงกว่า 7,000 คน ซึ่งในส่วนของการขายบริการทางเพศนั้น ส่วนใหญ่ก็จะมีการป้องกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการให้ความรู้และมีการตรวจโรคตลอด แต่ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าเนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นมักจะมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีการป้องกันเพราะมีความเชื่อใจกันทำให้โรคดังกล่าวมีแพร่ระบาดมากขึ้น
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยังได้กล่าวต่อไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของกลุ่มวัยรุ่น ว่า นอกจากจะมีปัญหาเรื่องของโรคติดต่อแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องของการตั้งท้องโดยไม่พร้อมด้วย เมื่อมีการต้องโดยไม่พร้อมก็ทำให้มีการทำแท้งเถื่อนเกิดขึ้น ซึ่งในแต่ละเดือนมีวัยรุนที่ไปทำแท้งเถื่อนและเกิดอาการแทรกซ้อนเช่นตกเลือด ไตวายเข้ารับการรักษาพยาบาลสูงถึงเดือนละประมาณ 30 คน
