xs
xsm
sm
md
lg

ที่ประชุมฝ่ายทหารเสนอ 2 ประเด็นหลักให้ ARF พิจารณาปรับวิธีรับมือภัยแบบใหม่-ต้านผู้ร้ายข้ามชาติทุกแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภูเก็ต พลเอกวิทวัส   รชตะนันทน์  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนกลาโหม
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ที่ประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก 22 ประเทศ สรุป 2 ประเด็นหลักเข้าสู่ที่ประชุม ARF พรุ่งนี้ การปรับกลยุทธ์รับมือกับภัยรูปแบบใหม่ และใช้มาตรการแบบเบ็ดเสร็จในการต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ เผย อินโดนีเซียกังวลเป็นเป้าหมายก่อการร้ายของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (22 ก.ค.) ที่โรงแรมเมอร์ลิน บีช รีสอร์ท หาดไตรตรัง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนกลาโหม แถลงผลการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ ARF DoD (ARF DefenceOffcials Dialogue ซึ่งมีการประชุมเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยมีตัวแทนทางฝ่ายทหารตั้งแต่ระดับหัวหน้างานนโยบายและความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศจาก 22 ประเทศ เข้าร่วมผู้แทนสหภาพยุโรป เข้าร่วมว่า สำหรับผลการประชุมที่จะเสนอผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ARF ครั้งที่ 16 ได้รับทราบในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) มีอยู่ 2 ประเด็นหลัก คือ กรอบแนวคิดใหม่ด้านความมั่นคงสำหรับประเทศภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (A New Security Paradigm for the Asia-Pacific) ซึ่งประเทศในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย

โดยกรอบแนวคิดใหม่ด้านความมั่นคงสำหรับประเทศภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกนั้น ทุกประเทศต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ ปัญหาโจรสลัด โรคระบาดร้ายแรง และภัยธรรมชาติขนาดใหม่ ซึ่งภัยเหล่านี้ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่สำคัญและมีลักษณะข้ามชาติ ที่ประชุม จึงเห็นร่วมกันว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ในการตอบสนองต่อสถานการณ์ด้านความมั่งคงในภูมิภาคที่เหมาะสม โดยประเทศต่างๆต้องแสวงหาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสร้างสรรค์ใหม่ๆหรือการพัฒนาจากกลไกลความร่วมมือที่มีอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้น

การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเห็นว่าปัญหาการก่อการร้ายจำเป็นต้องอาศัยทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว โดยการใช้มาตรการแบบเบ็ดเสร็จ (comprehensive approach) ซึ่งครอบคลุมทั้งมาตรการทางทหารและมาตรการที่ไม่ใช้ทหาร รวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค แต่จะต้องดำเนินการอยู่บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ

พลเอก วิทวัส ยังกล่าวถึงข้อถามที่ว่า ทางอินโดนีเซียได้แสดงความกังวลในเรื่องการก่อการร้ายในรประเทศอย่างไรบ้าง ว่า ทางอินโดนีเซียมีความกังวลเรื่องการก่อการร้ายมาก เห็นว่าการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งและในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันทางอินโดนีเซียถือว่าใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวดมากที่สุดแล้ว แม้บางครั้งจะเป็นการจำกัดสิทธิ์ของนักท่องเที่ยวบ้างก็ตาม ทางอินโดนีเซียพยายามที่จะขอความร่วมมือจากประเทศอื่นๆในเรื่องของข้อมูลข่าวสารเพราะคิดว่าอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายในการก่อการร้ายจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

ส่วนปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีนั้น ที่ประชุมเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายทหารไม่ได้หยิบยกมาหารือ เนื่องจากทางเกาหลีเหนือไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม
กำลังโหลดความคิดเห็น