นครศรีธรรมราช - ครอบครัวทหาร-ประชาชนนครศรีธรรมราชรับศพ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ทองสุก รอง ผบ.ฉกยะลา 14 ,รอง ผบ.พัน ร.15 พัน.2ทหารพลีชีพใน จ.ยะลาวันนี้ นับพันคน สุดสลด พ่อฝากเตือนเพื่อนทหารของลูกต้องไม่ประมาท เผยไม่เสียใจที่ลูกเสียชีวิตเพื่อชาติ เพราะตนเคยผ่านสนามเวียดนามมาแล้ว
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.45 น. ที่สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.โฆษิต สมุทรผ่อง รองแม่ทัพภาค 4 พร้อมด้วยนายทหารระดับสูง กองเกียรติยศ พลแตร และครอบครัวเพื่อนทหารรวมทั้งประชาชนนับพันคนที่ทราบข่าวการเคลื่อนย้ายศพนายทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ทองสุก รอง ผบ.ฉกยะลา 14 ,รอง ผบ.พัน ร.15 พัน.2 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย จ.ส.ต.วิชัย สาธรี ผบ.หมู่ปืนเล็ก โดยหลังจากนั้นได้มีการทำพิธีเคลื่อนย้ายศพมายังภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช มารอรับศพอย่างสมเกียรติ โดยกลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้เคลื่อนย้ายศพมาถึงสนามบินกองทหารเกียรติยศได้ตั้งแถวทำความเคารพ พลแตรเป่าแตรนอน จากนั้นได้เคลื่อนย้ายต่อมายังวัดชะเมา ถนนราชดำเนิน อ.เมือง เพื่อให้นายทหารรดน้ำและทำความเคารพก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายต่อไปยังภูมิลำเนา
สำหรับพันตรีพันธ์ศักดิ์ ทองสุก ได้มีการเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาที่บ้านใน ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตลอดพิธีการ พ.ท.นคร ทองสุก นายทหารนอกราชการบิดาของ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ พร้อมด้วย นางกัลยา ทองสุก มารดาอยู่ในอาการเศร้าสร้อยตลอดเวลา และมี นางนันทิยา นัครา อายุ 39 ปีพี่สาวคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
พ.ท.นคร ทองสุก บิดาของ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เคยเป็นทหารในสงครามเวียดนามมาแล้ว เรื่องเช่นนี้รับได้แต่ที่ลูกมาเสียชีวิตเช่นนี้ ส่วนหนึ่งดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว แต่อีกส่วนเสียใจที่อายุยังน้อยไม่ได้ล่ำลากันถ้าเจ็บป่วยจะได้ล่ำลากันแต่นี่เป็นการจากไปอย่างรวดเร็วยังทำงานได้ไม่เต็มที่
“ฝากเตือนไปยังเพื่อนทหารของลูกและผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังทำหน้าที่อยู่ขอให้อยู่ในความไม่ประมาทและจะต้องใช้สติในการทำงานทหารเราพูดได้แค่นี้ พ่อขอพูดแค่นี้” พ.ท.นครกล่าว
สำหรับ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ยังโสดเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อย จปร.รุ่น 45 และเพิ่งเรียนจบโรงเรียนเสนาธิการทหารรุ่น 86 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมีคำสั่งเลื่อนตำแหน่งกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ ร.15 พัน 2 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในปลายเดือนนี้ และยังมีประวัติปฏิบัติหน้าอย่างมุ่งมั่น ทั้งยังเคยไปราชการในประเทศติมอร์มาแล้วด้วย
ส่วน จ.ส.ต.วิชัย สาธรี ผบ.หมู่ปืนเล็ก ฉก.ยะลา 14 ที่เสียชีวิตในคราวเดียวกัน นางสุทธิดา สาธรี อายุ 32 ปี ภรรยาได้มารอรับศพ โดยบอกว่า จ.ส.ต.วิชัย สาธรี เป็นคนจังหวัดยโสธร ในวันพรุ่งนี้ทางญาติของ จ.ส.ต.วิชัย ที่อยู่ จ.ยโสธร จะเดินทางมาถึง มีบุตรสาวกับ จ.ส.ต.วิชัย 2 คนคือ ด.ญ.วิระวรรณ สาธรี อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.สุภาวี สาธรี อายุ 1 ขวบ 8 เดือน พักอาศัยอยู่ในบ้านพักของ ร.15 พัน 2 ซึ่งหลังจาก จ.ส.ต.วิชัย เสียชีวิตเท่ากับขาดเสาหลักครอบครัวเคว้งคว้าง ปกติ จ.ส.ต.วิชัย จะโทรศัพท์มาคุยกับลูกทุกวันเป็นคนที่รักลูกมาก นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.45 น. ที่สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.โฆษิต สมุทรผ่อง รองแม่ทัพภาค 4 พร้อมด้วยนายทหารระดับสูง กองเกียรติยศ พลแตร และครอบครัวเพื่อนทหารรวมทั้งประชาชนนับพันคนที่ทราบข่าวการเคลื่อนย้ายศพนายทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ทองสุก รอง ผบ.ฉกยะลา 14 ,รอง ผบ.พัน ร.15 พัน.2 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย จ.ส.ต.วิชัย สาธรี ผบ.หมู่ปืนเล็ก โดยหลังจากนั้นได้มีการทำพิธีเคลื่อนย้ายศพมายังภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช มารอรับศพอย่างสมเกียรติ โดยกลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้เคลื่อนย้ายศพมาถึงสนามบินกองทหารเกียรติยศได้ตั้งแถวทำความเคารพ พลแตรเป่าแตรนอน จากนั้นได้เคลื่อนย้ายต่อมายังวัดชะเมา ถนนราชดำเนิน อ.เมือง เพื่อให้นายทหารรดน้ำและทำความเคารพก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายต่อไปยังภูมิลำเนา
สำหรับพันตรีพันธ์ศักดิ์ ทองสุก ได้มีการเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาที่บ้านใน ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตลอดพิธีการ พ.ท.นคร ทองสุก นายทหารนอกราชการบิดาของ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ พร้อมด้วย นางกัลยา ทองสุก มารดาอยู่ในอาการเศร้าสร้อยตลอดเวลา และมี นางนันทิยา นัครา อายุ 39 ปีพี่สาวคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
พ.ท.นคร ทองสุก บิดาของ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เคยเป็นทหารในสงครามเวียดนามมาแล้ว เรื่องเช่นนี้รับได้แต่ที่ลูกมาเสียชีวิตเช่นนี้ ส่วนหนึ่งดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว แต่อีกส่วนเสียใจที่อายุยังน้อยไม่ได้ล่ำลากันถ้าเจ็บป่วยจะได้ล่ำลากันแต่นี่เป็นการจากไปอย่างรวดเร็วยังทำงานได้ไม่เต็มที่
“ฝากเตือนไปยังเพื่อนทหารของลูกและผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังทำหน้าที่อยู่ขอให้อยู่ในความไม่ประมาทและจะต้องใช้สติในการทำงานทหารเราพูดได้แค่นี้ พ่อขอพูดแค่นี้” พ.ท.นครกล่าว
สำหรับ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ยังโสดเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อย จปร.รุ่น 45 และเพิ่งเรียนจบโรงเรียนเสนาธิการทหารรุ่น 86 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมีคำสั่งเลื่อนตำแหน่งกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ ร.15 พัน 2 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในปลายเดือนนี้ และยังมีประวัติปฏิบัติหน้าอย่างมุ่งมั่น ทั้งยังเคยไปราชการในประเทศติมอร์มาแล้วด้วย
ส่วน จ.ส.ต.วิชัย สาธรี ผบ.หมู่ปืนเล็ก ฉก.ยะลา 14 ที่เสียชีวิตในคราวเดียวกัน นางสุทธิดา สาธรี อายุ 32 ปี ภรรยาได้มารอรับศพ โดยบอกว่า จ.ส.ต.วิชัย สาธรี เป็นคนจังหวัดยโสธร ในวันพรุ่งนี้ทางญาติของ จ.ส.ต.วิชัย ที่อยู่ จ.ยโสธร จะเดินทางมาถึง มีบุตรสาวกับ จ.ส.ต.วิชัย 2 คนคือ ด.ญ.วิระวรรณ สาธรี อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.สุภาวี สาธรี อายุ 1 ขวบ 8 เดือน พักอาศัยอยู่ในบ้านพักของ ร.15 พัน 2 ซึ่งหลังจาก จ.ส.ต.วิชัย เสียชีวิตเท่ากับขาดเสาหลักครอบครัวเคว้งคว้าง ปกติ จ.ส.ต.วิชัย จะโทรศัพท์มาคุยกับลูกทุกวันเป็นคนที่รักลูกมาก นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น