ชาวภูเก็ตประสานเสียง พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่กระทบวิถีชีวิตแถมทำเศรษฐกิจคึกคัก

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พ.ร.บ.ความมั่นคงที่ประกาศใช้รักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ต ชาวเชิงทะเลประสานเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กระทบวิถีชีวิตแถมทำให้เศรษฐกิจของเชิงทะเลและภูเก็ตคึกคัก ขณะที่ชาวเชิงทะเลและพื้นที่ใกล้เคียงทยอยไปรับสติกเกอร์ติดรถเข้าพื้นที่เพียบ


จากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค.2552 นี้ ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 10 -24 ก.ค.52 นี้ ในเขตพื้นที่ 6 ตำบลรอบๆ สถานที่จัดการประชุม ประกอบด้วย ตำบลเชิงทะเล ซึ่งเป็นตำบลที่ตั้งของโรงแรม ตำบลสาคู ตำบลไม้ขาว ตำบลศรีสุนทร ตำบลเทพกระษัตรี และตำบลกมลา โดยจะมีการตรวจเข้มผู้ที่จะเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในช่วงของการจัดการประชุมเหมือนกับที่พัทยา

โดยก่อนที่จะประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว หลายฝ่ายกังวว่าจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเขตตำบลเชิงทะเล และตำบลใกล้เคียง แต่เมื่อถึงวันที่ประกาศใช้พรบร.ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้และจะมีมาตรการเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นในช่วงการของประชุมระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค.นี้นั้น จากการสอบถามชาวบ้านในบริเวณตำบลเชิงทะเลและใกล้เคียงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านแต่อย่างใดที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ลงมาในพื้นที่และสร้างความเข้าใจต่อประชาชนถึงความสำคัญของการประชุมและได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อบต.และเทศบาล ให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก แถมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี่ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเชิงทะเลให้คึกคักขึ้นมา จากที่มีคนจากต่างถิ่นเข้ามาเป็นจนจำนวนมาก

น.ส.นงเยาว์ จุบรรณ แม้ค้าขายไก่ทอดอยู่บริเวณใกล้กับเทศบาลตำบลเชิงทะเล บอกว่า ไม่ได้ตกใจหรือตื่นเต้นอะไรที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ยังคงมาขายไก่ทอดอยู่ที่เดิมทุกวัน และจะขายทุกวันในช่วงของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เพราะจากการที่ได้ติดตามข่าวสารก็ทราบว่าจะมีการประชุม ซึ่งเมื่อมีการประชุมก็เข้าใจว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่จำนวนมากอยู่แล้ว รวมทั้งจะเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการสอดส่องดูแลบุคคลที่ผิดสังเกตอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน

ขณะที่ นายสุชาติ กริชคารมณ์ พ่อค้าขายอาหารกล่องรถพ่วงสามล้อในเชิงทะเล กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ไม่ได้ตื่นเต้นและตกใจอะไรที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เพราะก่อนหน้านี้ได้รับการบอกกล่าวจากกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านได้ทราบว่าจะมีการประกาศใช้พรบ.ความมั่นคง และได้ให้ตนไปทำบัตรสำหรับผ่านเข้าออกในบริเวณตำบลเชิงทะเล เพราะตนจะต้องขับรถพ่วงสามล้อตระเวนขายอาหารกล่องสำเร็จรูปไปตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลเชิงทะเล

“ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามา เหลือแต่สติกเกอร์ติดรถที่ไปรับมาแล้วสองครั้งได้รับแจ้งว่าสติกเกอร์หมด จะไม่รับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”


นางใจดี เครือสนิท เจ้าของร้านขายดอกไม้สดที่เชิงทะเล กล่าวว่า รู้ว่าจะมีการจัดประชุมที่โรงแรมในเชิงทะเล ก็เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากก็ไม่ได้ตกใจอะไร กลับรู้ถึงปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีทหารเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก แต่ที่สำคัญทำเศรษฐกิจของเชิงทะเลจากที่ซบเซากลับดีขึ้น เพราะมีคนเข้ามามากและทหาร ตำรวจเองก็มาใช้บริการตามร้านอาหารและร้านอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจคึกคักขึ้น และคิดว่าเมื่อการประชุมเสร็จสิ้นแล้วจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนต่างชาติที่จะมาภูเก็ตมากขึ้นด้วย และเท่าที่เห็นคนชิงทะเลก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติไม่มีอะไรแตกต่างจากที่ยังไม่ได้ประกาศใช้พรบ.ความมั่นคง

ส่วนที่บริเวณโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม จุติก้องอนุสรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทางศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนใช้เป็นสถานที่ในการให้ประชาชนทั้ง 6 ตำบล มาติดต่อขอทำสติกเกอร์ติดรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้า-ออก ที่เป็นสติกเกอร์ติดทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปจนถึงวันที่ 16 ก.ค.นี้ ปรากฎว่ามีประชาชนเดินทางมาติดต่อทำบัตรและรับสติกเกอร์ติดรถเป็นจำนวนมาก

นางพิมพ์พรรณ สนิทราช หนึ่งในชาวบ้านเชิงทะเลที่มารับสติกเกอร์ติดรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า ได้มายื่นเรื่องขอสติกเกอร์ติดรถจักรยานยนต์ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.และได้เดินทางมารับในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากตนเป็นคนหนึ่งที่จะต้องเดินทางเข้า-ออกในบริเวณของการจัดการประชุมสัมมนา เพราะทำงานอยู่ในโรงแรมในเครือลากูน่า ซึ่งก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี และที่มีการจัดประชุมที่เชิงทะเลในครั้งนี้คิดว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับคนเชิงทะเลมากนัก แต่จะเป็นการส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของเชิงทะเลและภูเก็ตด้วยซ้ำ

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค.นี้ ถือเป็นการประชุมที่จะกู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ภายหลังจากที่การจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อเดือนเมษายน ประสบความล้มเหลวไม่สามารถจัดการประชุมได้ จากที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้าไปสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในโรงแรมที่ประชุม และหากการประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนตุลาคมที่จะเกิดขึ้นที่ภูเก็ต ก็จะเป็นตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางมาภูเก็ตและประเทศไทยของชาวต่างชาติ