xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเบตงแฉนายทุนตัวการบุกรุกสวนป่าสิริกิติ์-ป่าสงวนกว่าหมื่นไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา – ชาวบ้านในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา แฉนายทุนบุกรุกสวนป่าสิริกิติ์ พระปรมาภิไธย และป่าสงวนกว่าหมื่นไร่ โดยใช้เล่ห์ ให้ชาวบ้านและลูกจ้างเป็นโล่กำบังในการเฝ้าดูแลพื้นที่ เป็นการบุกรุกเอาไปปลูกสวนยางพารา แล้วนำไปขายต่อ

วันนี้ (23 มิ.ย.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา ได้รับรายงานจากนายวานิ ซาดา กำนัน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ว่ามีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านจันทรัตน์ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา มาร้องเรียนว่ามีนายทุนใช้เล่ห์ ให้ชาวบ้านและลูกจ้างเป็นโล่กำบังในการเฝ้าดูแลพื้นที่สวนป่าสิริกิตต์ พระปรมาภิไธย ที่มีการบุกรุกเอาไปปลูกสวนยางพารา โดยล่าสุด พ.ต.ท.เชษฐ์วิทย์ นีระฮิง ผบ.ร้อย ตชด.445 เบตง พร้อมด้วย นายวานิ ซาดา กำนัน ต.ยะรม นำกำลัง จนท.ตชด. จนท.อุทยานแห่งชาติบางลางที่ 3 จุฬาภรณ์ 10 และ ชาวบ้าน เข้าสำรวจพื้นที่สวนป่าสิริกิตต์ พระปรมาภิไธย

ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านจันทรัตน์ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พบว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกรวมกันแล้วกว่า 250 ไร่ และมีรายงานว่าในพื้นที่ ต.ตาเนาะแมเราะ ต.อัยเยอร์เวง และ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา รวมกว่าหนึ่งหมื่นไร่เศษ ทำให้นายอำเภอเบตงได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางปราบปราม และป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกอีกต่อไป

ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านจันทรัตน์ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า การบุกรุกป่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนายทุนที่เข้ามาบุกรุกในพื้นที่สวนป่าสิริกิตต์ พระปรมาภิไธย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีทั้งกลุ่มนายทุนที่อยู่ในพื้นที่เอง และเป็นนายทุนที่มาจากพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้แล้วยังมีกลุ่มที่เป็นข้าราชการตำรวจ สมาชิกอบต. ผู้ใหญ่บ้าน เป็นนายทุนอีกจำนวนหนึ่งที่เข้ามาหาซื้อที่ดินในสวนป่าสิริกิตต์ พระปรมาภิไธย และป่าสงวนแห่งชาติของเบตง และอีกหลายแห่งในเขตเบตง รวมทั้งป่าสงวนแห่งชาติรอยต่อของ อ.ธารโต จ.ยะลาด้วย หากไม่มีการจับกุมคิดว่าอีก 3-4 ปีป่าคงจะหมดไปซึ่งชาวบ้านมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก

ชาวบ้านยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กลุ่มนายทุนจะใช้เล่ห์ลวงใช้ชาวบ้าน และลูกจ้างเป็นโล่กำบังในการเฝ้าดูแลพื้นที่ โดยอ้างว่าพื้นที่ป่ามีเอกสารสิทธิที่ถูกต้องแล้ว ส่วนพื้นที่ที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติที่มีการบุกรุกอ้างว่า ได้มีการซื้อเอกสารสิทธิจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยจ่ายให้เจ้าหน้าที่ไร่ละ 5,000-10,000 บาท สำหรับผืนป่าที่มีการบุกเบิกใหม่

และเมื่อได้ปลูกต้นยางพาราโตขึ้นกลุ่มนายทุนกลุ่มนี้ก็จะขายต่อไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งมีกำไรเฉลี่ยต่อไร่ 50,000 ถึง 100,000 บาทโดยอ้างว่าจะนำเงินมาแบ่งให้คนดูแลพื้นที่ ที่บุกรุก หากมีการจับกุมห้ามซัดทอดเด็ดขาด ซึ่งผู้ดูแลพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวพม่า ชาวจีนฮ่อ ที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายจึงง่ายต่อการใช้เล่ห์ลวงของกลุ่มนายทุน





กำลังโหลดความคิดเห็น