นครศรีธรรมราช – ไฟโหมไหม้ป่าสงวนแห่งชาตินครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ยันคุมสถานการณ์อยู่ เชื่อมือดีลอบเผาทำลายสภาพป่า ให้กลายเป็นผืนป่าเสื่อมโทรม หวังครอบครอง เผยรอบ 6 เดือนปี 2552 สถิติไฟป่าพุ่งผิดปกติ ถึง 35 ครั้ง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดไฟป่าขึ้นหลายจุดในพื้นที่ระหว่างรอยต่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้หนักในพื้นที่ ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเริ่มขึ้นจากพื้นที่ครอบครองของชาวบ้าน ขณะเดียวกัน ได้เกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทราย-ป่ากลอง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่เตรียมประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องจากพระราชดำริ ได้นำเจ้าหน้าที่ป้องกันไฟป่าเข้าทำการควบคุม และสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายให้กับผืนป่าธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่านครศรีธรรมราช นำกำลังหลายสิบนายเข้าทำการสนับสนุน
สถานการณ์ในพื้นที่ พบว่า หลายจุดเพลิงได้โหมลุกไหม้ผืนป่าเสม็ด ซึ่งเป็นผืนป่าพรุที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของนครศรีธรรมราช และพื้นที่ภาคใต้ ไฟได้ลุกลามอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว เจ้าหน้าที่ต้องเข้าสกัด และจำกัดวงไฟให้แคบ และไม่ให้ลุกลามตามเทคนิคการควบคุมไฟป่า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเชียรใหญ่ เข้าให้การสนับสนุนรถน้ำและอุปกรณ์พร้อมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวมในขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมได้ บางจุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นอยู่เขตป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ครอบครองของชาวบ้านเข้าใจว่าชาวบ้านเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร และบางจุดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอนทราย-ป่ากลอง และพื้นที่เตรียมประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ มีไฟป่าเกิดขึ้นเช่นกันแต่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าควบคุมสกัด ซึ่งทั้งหมดนั้นยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังควบคุมได้
“พื้นที่ป่าโดยรวมในละแวกนี้กำลังเข้าสู่ช่วงที่เสี่ยงต่อไฟป่า แต่อย่างไรก็ตามจากสถิตินั้นพบว่าไฟได้เกิดขึ้นอย่างผิดปกติตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ถึง 35 ครั้งมากกว่าทุกๆ ปี เรากำลังตั้งข้อสังเกตว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความตั้งใจของคนบางกลุ่ม หรือของนายทุน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพผืนป่าให้มีความเสื่อมโทรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเขตอำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย ที่คนบางกลุ่มต้องการเอาพื้นที่ป่าเพื่อเข้าไปทำประโยชน์ไฟป่าเกิดขึ้นอย่างผิดปกติ แต่เรายืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะปกป้องผืนป่าอย่างเต็มที่มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.” นายธนากร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระยะหลายเดือนที่ผ่านมาผืนป่าพรุในย่านดังกล่าวนั้น กลายเป็นเป้าหมายให้กับคนบางกลุ่มในการประท้วงกดดันให้ทางราชการประกาศให้เป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อที่จะจัดสรรให้กับเครือข่ายเข้าทำการประโยชน์รายละ 15 ไร่ แต่ผืนป่าดังกล่าวนั้นยังเป็นผืนป่าที่สมบูรณ์ จึงกลายเป็นข้อสังเกตที่สำคัญว่าไฟป่าที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของกลุ่มคนดังกล่าว
