ศูนย์ข่าวภูเก็ต -เกิดปรากฏการณ์สาหร่ายบูมที่ปลายแหลมสะพานหินภูเก็ต ระบุสาเหตุเกิดจากน้ำเสียการพัฒนาเมือง ขณะที่การเกิดสาหร่ายบูม ที่หาดป่าตองมีเป็นประจำทุกปี เกรงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
นายอุกกฤต สตภูมินทร์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กล่าวถึงการเกิดปรากฏการณ์สาหร่ายบูม หรือสาหร่ายสะพรั่งที่ทะเลบริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดประจำเดือน พ.ค2552 ว่า
สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ได้รับแจ้งจากประชาชนที่มาออกกำลังกายที่บริเวณสะพานหิน ว่า ในช่วงตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.เป็นต้นมามีสาหร่ายจำนวนมากที่ลอยมาติดอยู่ที่บริเวณชายหาดสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบเป็นสาหร่ายสีเขียวชนิดหนึ่ง หรือที่ชาวบ้านเรียกสาหร่ายผักกาดมีสภาพที่งอกงามสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้สาหร่ายซึ่งปกติจะมีอยู่แล้วงอกงามกว่าปกติก็เนื่องจากทะเลมีธาตุอหารสูงมาก และมีแสงที่เหมาะสมเมื่อสาหร่ายโตมากก็ถูกซัดเข้าหาฝั่ง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเก็บสาหร่ายไปทำลายแล้ว
“อย่างไรก็ตาม จากการบูมของสาหร่ายในพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน เป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างหนึ่งว่าคุณภาพน้ำในบริเวณดังกล่าวเริ่มมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย ซึ่งบริเวณสะพานหินเป็นจุดรองรับน้ำเสียจากชุมชน แม้ว่าจะมีระบบบำบัด แต่อาจจะมีน้ำเสียบางส่วนที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบำบัดทำให้น้ำในทะเลมีการเปลี่ยนแปลง การบูมของสาหร่ายนั้นเป็นตัวบกบอกได้เป็นอย่างดีว่าน้ำในบริเวณดังกล่าวมีคุณภาพต่ำลง ซึ่งจากการตรวจวัดคุณภาพน้ำพบว่าออกซิเจนละลายน้ำต่ำ น้ำมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นการบอกสะภาพได้ว่าน้ำในบริเวณดังกล่าวมีการเน่าเสีย” นายอุกกฤต กล่าวและว่า
การเกิดสาหร่ายบูม หรือสาหร่ายสะพรั่งในพื้นที่บริเวณสะพานหิน ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่ถ้าไปเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้ ซึ่งทุกๆปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุสาหร่ายบูม ที่บริเวณชายหาดป่าตองเป็นประจำ โดยจะเกิดในช่วงเดือน ธ.ค.-ก.พ.ของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่แดดดี
การเกิดสาหร่ายบูมนั้นทำให้เกิดความไม่สวยงามบริเวณชายหาด ซึ่งการเกิดสาหร่ายสะพรั่งที่หาดป่าตอง ก็เป็นข้อบงชี้ได้อย่างหนึ่งว่าน้ำที่ป่าตองมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย ซึ่งการสะพรั่งของสาหร่ายที่ป่าตองจะเปลี่ยนไปตามชนิดต่างๆ แม้แต่สาหร่ายเล็กถ้ามีการสะพรั่งก็จะทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีไปตามสีของสาหร่ายได้
นายอุกกฤต กล่าวต่อไปว่า การบูมของสาหร่ายจะเป็นอันตรายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวสาหร่ายที่บูมว่าเป็นสาหร่ายมีพิษหรือไม่ ถ้าเป็นสาหร่ายมีพิษเมื่อบูมขึ้นมาสัตว์น้ำไปกินเป็นอาหารแล้วคนนำสัตว์น้ำมารับประทานอาจจะเป็นพิษได้ แต่เท่าที่พบสาหร่ายที่บูมเป็นสาหร่ายทั่วไปที่ไม่มีพิษ และสาเหตุของการบูมของสาหร่าย ก็เกิดจากเรื่องของน้ำเสียที่ไหลลงทะเลรวมทั้งน้ำที่เกิดจากการเปิดหน้าดินเนื่องจากการพัฒนาเมือง ซึ่งในส่วนของภูเก็ตมีการเปิดหน้าดินจำนวนมาก และพบว่าเวลาฝนตกน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลจะมีสีของดินโคลนปนอยู่