ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ร่วมกับสมาคมอิโคโมสไทย จัดให้ความรู้เรื่อง “กฎบัตรการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย ครั้งที่ 3” หวังกระตุ้นทุกภาคส่วนเข้าใจถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย ระบุ ปัจจุบันมรดกทางวัฒนธรรมของไทยจำนวนมาก ที่ขาดการดูแลและนับวันมีแนวโน้มถูกทำลายมากขึ้น
วันนี้ (26 พ.ค) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ตรึงใจ บูรณสมภพ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรม กล่าวในการสัมมนาให้ความรู้ เรื่อง “กฎบัตรการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย ครั้งที่ 3” ซึ่งคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ร่วมกับสมาคมอิโคโมสไทย จัดขึ้น ว่า
ปัจจุบันการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรมในประเทศไทย มีกรมศิลปากร เพียงหน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบ มีหน้าที่ดูแลเพียงโบราณสถานและมรดกวัฒนธรรมไทย ที่มีความสำคัญในระดับประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และงบประมาณไม่เพียงพอต่อการดูแลบำรุงรักษาโบราณวัตถุและโบราณสถานที่มีอยู่
ส่วนมรดกวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ที่มีอยู่หลากหลาย และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุปรากฏอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศไทยอีกมากมายยังขาดการดูแล และนับวันจะถูกเปลี่ยนแปลงทำลายมากขึ้น จากการพัฒนาสมัยใหม่ตามกระแสโลกาภิวัตน์
ประกอบกับผู้คนส่วนใหญ่ในท้องถิ่น ขาดความเข้าใจในคุณค่า ของรากเหง้ามรดกวัฒนธรรมไทย และขาดแนวทางการปรับใช้ที่เหมาะสม หรือถ้ามีก็ไม่เข้มแข็ง ขาดบุคลากร และทุนดำเนินงาน ประกอบกับการดำเนินงานด้านอนุรักษ์ในท้องถิ่น ยังขาดแนวทางที่เหมาะสม ในการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของตนเอง รวมถึงการที่ประเทศไทยยังใช้กฎบัตรนานาชาติที่มีอยู่เดิม เป็นแนวทางในการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมจนถึงปัจจุบัน และไม่ครอบคลุมมรดกพื้นถิ่นที่มีความหลากหลาย ทำให้มรดกวัฒนธรรมในท้องถิ่น โดยเฉพาะด้านกายภาพ ค่อยๆ หายไป
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ตรึงใจ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา สมาคมอิโคโมสไทย ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ เล็งเห็นถึงปัญหาในเรื่องดังกล่าว และได้พยายามจัดทำร่างกฎบัตรอิโคโมสไทยว่าด้วยการบริหารจัดการโบราณสถานและมรดกวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง โดยร่วมมือกับกรมศิลปากรและคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ซึ่งสมาคมสถาปนิกสยามฯ ดำเนินงานจัดประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาได้ระดับหนึ่งแล้ว
คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรม จึงได้ร่วมกับสมาคมอิโคโมสไทย กำหนดให้มีการจัดสัมมนา เรื่อง “กฎบัตรการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย” ขึ้น เพื่อสานต่อการทำกฎบัตรดังกล่าว โดยมีแนวทางในการจัดสัมมนาในพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งกฎบัตรที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง และใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทยได้อย่างเหมาะสมและทัดเทียมนานาประเทศ
วันนี้ (26 พ.ค) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ตรึงใจ บูรณสมภพ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรม กล่าวในการสัมมนาให้ความรู้ เรื่อง “กฎบัตรการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย ครั้งที่ 3” ซึ่งคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ร่วมกับสมาคมอิโคโมสไทย จัดขึ้น ว่า
ปัจจุบันการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรมในประเทศไทย มีกรมศิลปากร เพียงหน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบ มีหน้าที่ดูแลเพียงโบราณสถานและมรดกวัฒนธรรมไทย ที่มีความสำคัญในระดับประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และงบประมาณไม่เพียงพอต่อการดูแลบำรุงรักษาโบราณวัตถุและโบราณสถานที่มีอยู่
ส่วนมรดกวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ที่มีอยู่หลากหลาย และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุปรากฏอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศไทยอีกมากมายยังขาดการดูแล และนับวันจะถูกเปลี่ยนแปลงทำลายมากขึ้น จากการพัฒนาสมัยใหม่ตามกระแสโลกาภิวัตน์
ประกอบกับผู้คนส่วนใหญ่ในท้องถิ่น ขาดความเข้าใจในคุณค่า ของรากเหง้ามรดกวัฒนธรรมไทย และขาดแนวทางการปรับใช้ที่เหมาะสม หรือถ้ามีก็ไม่เข้มแข็ง ขาดบุคลากร และทุนดำเนินงาน ประกอบกับการดำเนินงานด้านอนุรักษ์ในท้องถิ่น ยังขาดแนวทางที่เหมาะสม ในการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของตนเอง รวมถึงการที่ประเทศไทยยังใช้กฎบัตรนานาชาติที่มีอยู่เดิม เป็นแนวทางในการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมจนถึงปัจจุบัน และไม่ครอบคลุมมรดกพื้นถิ่นที่มีความหลากหลาย ทำให้มรดกวัฒนธรรมในท้องถิ่น โดยเฉพาะด้านกายภาพ ค่อยๆ หายไป
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ตรึงใจ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา สมาคมอิโคโมสไทย ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ เล็งเห็นถึงปัญหาในเรื่องดังกล่าว และได้พยายามจัดทำร่างกฎบัตรอิโคโมสไทยว่าด้วยการบริหารจัดการโบราณสถานและมรดกวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง โดยร่วมมือกับกรมศิลปากรและคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ซึ่งสมาคมสถาปนิกสยามฯ ดำเนินงานจัดประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาได้ระดับหนึ่งแล้ว
คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งมรดกวัฒนธรรม จึงได้ร่วมกับสมาคมอิโคโมสไทย กำหนดให้มีการจัดสัมมนา เรื่อง “กฎบัตรการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย” ขึ้น เพื่อสานต่อการทำกฎบัตรดังกล่าว โดยมีแนวทางในการจัดสัมมนาในพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งกฎบัตรที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง และใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมของประเทศไทยได้อย่างเหมาะสมและทัดเทียมนานาประเทศ
