กระบี่ - สองตายายที่กระบี่ร้องโดนนายหน้าเบี้ยวขายที่ดินราคา 15 ล้านบาท ได้เพียงเงินมัดจำ 3 ล้าน
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีสองสามีภรรยา อายุกว่า 70 ปี ที่อำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ต้องขนย้ายข้าวของออกจากบ้านที่อยู่อาศัยมานานกว่า 20 ปี เนื่องจากได้ขายที่ดินให้กับนายทุนไปตั้งแต่ปี 2550 ในราคา 15 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ได้เพียงเงินมัดจำประมาณ 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเส๊ะ วะเจดีย์ อายุ 76 ปี และนางเสี้ย หวังสป อายุ 75 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 1 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
จากการสอบถามนายเส๊ะถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทราบว่า เมื่อช่วงต้นปี 2550 ได้ตกลงขายที่ดิน ซึ่งมีหลักฐาน น.ส.3 เลขที่ 20 ตั้งอยู่ที่บ้านหัวหิน ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา และที่ดินมือเปล่าที่อยู่ติดกัน อีก 5 ไร่ รวมทั้งหมด 16 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา ในราคารวมทั้งสิ้น 15 ล้านบาท ให้กับนายทุนรายหนึ่ง โดยมีนายหน้าทราบชื่อ คือ นายหวัน ได้นำเงินมาวางมัดจำให้จำนวน 2 ล้านบาท โดยมีกำหนดโอนสิทธิครอบครองที่ดินในวันที่ 8 มิถุนายน 2550
ต่อมาทางผู้ซื้อได้มีการผัดผ่อนวันจดทะเบียนโอน โดยนายหน้าคนเดิมนำเงินมัดจำเพิ่มให้อีก 1 ล้านบาท รวมเป็น 3 ล้านบาท หลังจากนั้นตนก็เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยบอกว่าจะกลับมาเอาเงินส่วนที่เหลือภายหลัง
นายเส๊ะเล่าอีกว่า หลังตนกลับมาจากแสวงบุญที่ประเทศซาอุฯ ก็ไม่มีเงินใช้ จึงได้ทวงถามเงินค่าที่ดินจากนายหวัน แต่นายหวันบอกว่าจ่ายเงินให้ครบหมดแล้ว ทวงถามอีกหลายครั้งก็ไม่ได้ ระหว่างอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ต้องทนกินข้าวกับหัวมันสำปะหลังประทังชีวิตเป็นเวลากว่า 1 เดือน เพราะไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว และตอนนี้ต้องขนของออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับลูกๆ เพราะมีการโอนที่ดินให้ผู้ซื้อไปแล้ว
ทั้งนี้ ตนมาทราบภายหลังว่านายทุนผู้ที่ซื้อที่ดินได้จ่ายเงินส่วนที่เหลือให้นายหวันมาครบแล้ว แต่นายหวันไม่ยอมให้ตน และเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดินตนก็ได้มอบหมายให้นายหวัน ดำเนินการเองเพราะตนอายุมากมองไม่ค่อยเห็นจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องจำทนออกจากที่ดินที่เคยสร้างมากับมือ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ รอเพียงนายหวันจะเห็นใจมอบเงินที่เหลือให้เท่านั้น