ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แบ่ง 14 โซนเครือข่ายโครงการตาสับปะรด “ภูเก็ตโมเดล” เฝ้าระวังภัยในพื้นที่นำร้องกะตะ-กะรน สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว/ภาคธุรกิจ เอกชนพร้อมหนุนงบประมาณจัดซื้อวิทยุสื่อสาร
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเครือข่ายตาสับปะรด “ภูเก็ตโมเดล” เพื่อเพิ่มศักยภาพการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยดึงประชาชน ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม และกระตุ้นสร้างจิตสำนึกในการรักษาความมั่นคงในเมืองท่องเที่ยว ว่า นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง จ.ภูเก็ตได้รับการสนับสนุนจากกองทัพภาคที่ 4 ในการดำเนินโครงการเครือข่าตาสับปะรด ภูเก็ตโมเดล ซึ่งจะเป็นการสร้างเกราะป้องกันรักษาความปลอดภัย โดยให้มีการขยายผลสอดคล้องไปยังประชาชน เพราะประชาชนเป็นกำลังที่สำคัญในการร่วมมือ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคคลที่เดินทางเข้ามา
โดยมีการแบ่งโซนเครือข่ายวิทยุ ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด จำนวน 14 จุด ซึ่งพื้นที่แรกที่จะมีการดำเนินการทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลือกพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องภายในสัปดาห์หน้าก็จะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และรับสมัครอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการประมาณ 300 คน โดยภาคเอกชนในพื้นที่ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการจะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อวิทยุสื่อสารจำนวน 300 ตัวเพื่อนำมาใช้เพื่อเป็นเครือข่ายในการแจ้งเหตุให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ตั้งศูนย์วิทยุในพื้นที่ตำบลกะรน
หลังจากนั้น จะมีการขยายการดำเนินเครือข่ายตาสับปะรดให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่งจะแบ่งโซนการดำเนินการออกไปจำนวน 14 จุด คาดว่า จะต้องใช้วิทยุสื่อสารจำนวน 1,500 ตัว ซึ่งในส่วนของวิทยุสื่อสารทั้งหมดนั้นทางภาคเอกชนและนักธุรกิจในพื้นที่พร้อมที่จะสนับสนุน เพราะเชื่อว่าถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
ด้าน นายสมบัติ อติเศรษฐ นายกสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะ กะรน กล่าวว่า ทางด้านภาคเอกชน และผู้ประกอบการได้มีเครือข่ายอยู่แล้ว แต่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีเครื่องมือในการช่วยเป็นหูเป็นตาให้ดีขึ้นกว่าเดิม มีความยินดี และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือให้เกิดขึ้นในหาดกะตะ กะรน
นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า ทางเทศบาล และภาคเอกชนยินดีให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยเบื้องต้นได้มีการจัดสรรงบประมาณจากท้องถิ่น และเอกชน จำนวน 1.5 ล้านบาท จัดซื้อวิทยุ จำนวน 300 เครื่อง ซึ่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้สามารถดำเนินการได้ และคิดว่าสามารถแก้ปัญหาด้านอาชญากรรม ด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินได้ และเกิดประโยชน์มาก แต่ควรมีการขยายเครือข่ายเพิ่มเติม
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเครือข่ายตาสับปะรด “ภูเก็ตโมเดล” เพื่อเพิ่มศักยภาพการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยดึงประชาชน ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม และกระตุ้นสร้างจิตสำนึกในการรักษาความมั่นคงในเมืองท่องเที่ยว ว่า นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง จ.ภูเก็ตได้รับการสนับสนุนจากกองทัพภาคที่ 4 ในการดำเนินโครงการเครือข่าตาสับปะรด ภูเก็ตโมเดล ซึ่งจะเป็นการสร้างเกราะป้องกันรักษาความปลอดภัย โดยให้มีการขยายผลสอดคล้องไปยังประชาชน เพราะประชาชนเป็นกำลังที่สำคัญในการร่วมมือ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคคลที่เดินทางเข้ามา
โดยมีการแบ่งโซนเครือข่ายวิทยุ ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด จำนวน 14 จุด ซึ่งพื้นที่แรกที่จะมีการดำเนินการทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลือกพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่องภายในสัปดาห์หน้าก็จะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และรับสมัครอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการประมาณ 300 คน โดยภาคเอกชนในพื้นที่ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการจะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อวิทยุสื่อสารจำนวน 300 ตัวเพื่อนำมาใช้เพื่อเป็นเครือข่ายในการแจ้งเหตุให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ตั้งศูนย์วิทยุในพื้นที่ตำบลกะรน
หลังจากนั้น จะมีการขยายการดำเนินเครือข่ายตาสับปะรดให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่งจะแบ่งโซนการดำเนินการออกไปจำนวน 14 จุด คาดว่า จะต้องใช้วิทยุสื่อสารจำนวน 1,500 ตัว ซึ่งในส่วนของวิทยุสื่อสารทั้งหมดนั้นทางภาคเอกชนและนักธุรกิจในพื้นที่พร้อมที่จะสนับสนุน เพราะเชื่อว่าถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
ด้าน นายสมบัติ อติเศรษฐ นายกสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะ กะรน กล่าวว่า ทางด้านภาคเอกชน และผู้ประกอบการได้มีเครือข่ายอยู่แล้ว แต่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีเครื่องมือในการช่วยเป็นหูเป็นตาให้ดีขึ้นกว่าเดิม มีความยินดี และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือให้เกิดขึ้นในหาดกะตะ กะรน
นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า ทางเทศบาล และภาคเอกชนยินดีให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยเบื้องต้นได้มีการจัดสรรงบประมาณจากท้องถิ่น และเอกชน จำนวน 1.5 ล้านบาท จัดซื้อวิทยุ จำนวน 300 เครื่อง ซึ่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้สามารถดำเนินการได้ และคิดว่าสามารถแก้ปัญหาด้านอาชญากรรม ด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินได้ และเกิดประโยชน์มาก แต่ควรมีการขยายเครือข่ายเพิ่มเติม