ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะสัตวแพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเลครั้งแรกในประเทศไทย หาสาเหตุเต่าทะเลไม่วางไข เชื่อภายในปีนี้สามารถผสมเทียมเต่าทะเลได้ ช่วยลดภาวะเสี่ยงเต่าทะเลสูญพันธุ์
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่บริเวณบ่อเลี้ยงเต่าทะเล กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ภูเก็ต รศ.สพญ.ดร.เกษกนก ศิรินฤมิตร อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับนักศึกษา และเจ้าหน้าที่ ช่วยกันใช้อุปกรณ์รีดน้ำเชื้อเต่าหญ้าตัวผู้ขนาดใหญ่ เพื่อนำน้ำเชื้อมาศึกษาวิเคราะห์และเก็บรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาเต่าทะเลใกล้สูญพันธ์ และหาสาเหตุของเต่าทะเลไม่ขึ้นมาวางไข ตามโครงการศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเล
รศ.สพญ.ดร.เกษกนก กล่าวว่า โครงการศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเลเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปี ที่แล้ว โดยนักศึกษาที่มาฝึกงานที่สถาบันพบปัญหาเต่าทะเลไม่ขึ้นมาวางไขจึงได้ทำโครงการศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเลขึ้น ซึ่งการศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเลนั้นถือว่าเป็นการศึกษาเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อหาสาเหตุของเต่าทะเลไม่ขึ้นมาวางไข และได้มีการเก็บน้ำเชื้อจากเต่าทะเลที่เลี้ยงไว้ที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากที่ภูเก็ตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งครั้งแรกนั้นเป็นการศึกษาทางด้านเทคนิคในการรีดน้ำเชื้อว่าจะต้องทำอย่างไร
หลังจากนั้น ก็ได้มีการศึกษาในเรื่องของการใช้สารละลายน้ำเชื้อมาละลายให้สเปิร์มของเต่าทะเลละลายออกมาได้ ต่อมาเป็นการศึกษาเรื่องของสีย้อมเพื่อดูรูปร่างของอสุจิซึ่งไม่สามารถใช้สียอมชนิดเดียวกับที่ย่อมอสุจิของสุกร สุนัขได้ จะต้องใช้สีย้อมอย่างอื่น ซึ่งการศึกษาขั้นตอนในการดำเนินการนั้นทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการดำเนินการครั้งนี้ก็เป็นขั้นตอนของการเก็บตัวอย่างน้ำเชื้อ เพื่อนำไปทำน้ำเชื้อแช่เย็นเพื่อดูว่าจะสามารถจัดเก็บได้นานเท่าไหร่ และจะทำควบคู่กันไปคือการทำน้ำเชื้อแช่แข็งเพราะถ้าสามารถทำน้ำเชื้อแช่แข็งได้จะสามารถเก็บได้เป็นปี หลังจากนั้น จะนำน้ำเชื้อมาศึกษาโครงสร้างของสเปิมส์ในเชิงลึกว่ามีโครงสร้างอย่างไร ซึ่งการศึกษาน้ำเชื้อของเต่าทะเลนั้นไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศไทย โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ทำ
นอกจากนั้น จะมีการเจาะเลือดเต่าทะเลชุดทดลองทุกเดือนเพื่อดูเรื่องของฮอร์โมนทั้งตัวผู้และตัวเมียเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนว่าเป็นอย่างไร
“และในอนาคตอันใกล้นี้หลังจากที่เก็บน้ำเชื้อแช่เย็นและแช่แข็งได้แล้ว และรอวงรอบฮอร์โมนของเต่าตัวเมียว่าเป็นอย่างไรก็จะสามารถทำการผสมเทียมเต่าทะเลต่อไปในอนาคต ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้น่าจะเริ่มดำเนินการผสมเทียมเต่าทะเลได้เพราะได้มีการศึกษาควบคู่กันอยู่แล้ว โดยการศึกษานั้นเริ่มที่เต่าหญ้าก่อน เนื่องจากการศึกษาพบว่าเต่าหญ้าขึ้นมาวางไข่น้อยลงและมีแนวโน้มสูญพันธุ์สูง เชื่อว่า ถ้าสามารถผสมเทียมเต่าทะเลได้สำเร็จจะทำให้เพิ่มจำนวนเต่าทะเลได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงการสูญพันธุ์ไปได้” รศ.สพญ.ดร.เกษกนก กล่าว