ยะลา - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูตจากกลุ่มสหภาพยุโรป ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้สัมผัสกับพื้นที่จริง ซึ่งมีความแตกต่างจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะเอกอัครราชทูตจากกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 14 คน จากประเทศเช็ก, สวีเดน, เบลเยียม, บัลเกเรีย, ฟินแลนด์, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, โรมาเนีย, เยอรมนี, ฮังการี, โปแลนด์ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
โดยมี นายพระนาย สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.และ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคง ร่วมให้การต้อนรับ
ซึ่งศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ของ (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้น้อมนำแนวทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ควบคู่ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องการให้มีการเผยแพร่อบรมการใช้สารจุลินทรีย์ชีวภาพในการทำเกษตรเพื่อลดกำลังผลิตแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสอดคล้องกับหลักศาสนา และ วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่
โดย พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคง ได้นำคณะทั้งหมดดูการเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก การปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงไก่เบตง และ การผลิดปุ๋ย EM เพื่อใช้ในการเกษตร ทำให้ผักที่ปลูกปลอดสารพิษ และนำคณะเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มเยาวชนในโครงการยาลานันบารู (เส้นทางสายใหม่) ฟื้นฟูเยาวชนที่หลงผิดติดยาเสพติด
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตนได้นำคณะ เอกอัครราชทูตจากกลุ่มสหภาพยุโรป ลงมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในครั้งนี้ เพื่อให้ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ลงมาสัมผัสกับพื้นที่จริง มารับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริง ซึ่งมีความแตกต่างจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากสื่อในแถบยุโรป ที่ว่าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ยังไม่ได้รับการดูแล ยังด้อยต่อการพัฒนา คนในพื้นที่ยังไม่เกิดความสมานฉันท์ เหตุการณ์ยังคงเลวร้าย และเมื่อประเทศในกลุ่มดังกล่าวลงในพื้นที่แล้ว ก็จะสามารถที่จะรับรู้ข้อมูลด้วยตนเองว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นอย่างไร
