วันนี้ (28 เม.ย.) ความคืบหน้าหลังจากที่มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 5-6 คน ใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบสียี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 บุกเข้าไปยิงชาวบ้านในบ้านพัก และยิงชาวบ้านบริเวณหน้ามัสยิด ที่บ้านสูแก (บ้านย่อยบ้านบาจุ) หมู่ที่ 5 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เสียชีวิตอีก 6 ราย เมื่อกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย.52 ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บ ของ นางตีอะห์ การิง อายุ 60 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านที่เสียชีวิต ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมหญิง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา มีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณด้านหลัง และมีบาดแผลที่บริเวณต้นแขนขวา อาการสาหัส ด้าน นายแพทย์กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไข้อาการปลอดภัยแล้ว รู้สึกตัวดี แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นกรณีพิเศษ เพราะถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดีบาดแผลอาจจะมีการติดเชื้อได้ เพราะคนไข้มีอายุค่อนข้างมาก
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.สุทัศน์ หนูสีคง สวญ.หน.สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมาจากอาวุธปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ และสอบพยานบุคคลในพื้นที่อย่างละเอียดด้วยว่าผู้ตายมีความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวกับบุคคลใดในพื้นที่ด้วยหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ดี บ้านที่เกิดเหตุ เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น และพบเอกสารเกี่ยวกับการปลุกระดมการแบ่งแยกรัฐปัตตานี จำนวนหนึ่ง ซึ่ง จนท.ตั้งข้อสันนิษฐานผู้ตายอาจมีความขัดแย้งส่วนตัวภายในหมู่บ้านหรือนำความลับของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมาเปิดเผยกับทางราชการ ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่พอใจ จึงได้ลงมือฆ่ายกบ้านดังกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.สายัญห์ กระแสแสน ผบก.จ.ยะลา ได้กำชับให้ สวญ.สภ.ปะแต เจ้าของพื้นที่ เร่งรัดสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญของประชาชนและอาจเป็นเงื่อนไขของกลุ่มผู้ความไม่สงบในพื้นที่อาจฉวยโอกาสนำมาเป็นประเด็นโจมตีฝ่าย จนท.รัฐในการปลุกระดมสร้างมวลชนในพื้นที่
ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บ ของ นางตีอะห์ การิง อายุ 60 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านที่เสียชีวิต ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมหญิง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา มีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณด้านหลัง และมีบาดแผลที่บริเวณต้นแขนขวา อาการสาหัส ด้าน นายแพทย์กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้คนไข้อาการปลอดภัยแล้ว รู้สึกตัวดี แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นกรณีพิเศษ เพราะถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดีบาดแผลอาจจะมีการติดเชื้อได้ เพราะคนไข้มีอายุค่อนข้างมาก
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.สุทัศน์ หนูสีคง สวญ.หน.สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมาจากอาวุธปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ และสอบพยานบุคคลในพื้นที่อย่างละเอียดด้วยว่าผู้ตายมีความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวกับบุคคลใดในพื้นที่ด้วยหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ดี บ้านที่เกิดเหตุ เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น และพบเอกสารเกี่ยวกับการปลุกระดมการแบ่งแยกรัฐปัตตานี จำนวนหนึ่ง ซึ่ง จนท.ตั้งข้อสันนิษฐานผู้ตายอาจมีความขัดแย้งส่วนตัวภายในหมู่บ้านหรือนำความลับของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมาเปิดเผยกับทางราชการ ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่พอใจ จึงได้ลงมือฆ่ายกบ้านดังกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.สายัญห์ กระแสแสน ผบก.จ.ยะลา ได้กำชับให้ สวญ.สภ.ปะแต เจ้าของพื้นที่ เร่งรัดสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญของประชาชนและอาจเป็นเงื่อนไขของกลุ่มผู้ความไม่สงบในพื้นที่อาจฉวยโอกาสนำมาเป็นประเด็นโจมตีฝ่าย จนท.รัฐในการปลุกระดมสร้างมวลชนในพื้นที่
