แพทย์เผยอาการ “สนธิ” ไม่น่าห่วง อยู่ระหว่างผ่าตัด อาการขณะนำส่งพูดคุยได้เป็นปกติ มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา เศษโลหะฝังลึกครึ่งเซนติเมตร คาดว่าเป็นหัวกระสุนปืนทำให้ศีรษะแตก กะโหลกยุบเล็กน้อย ด้านการ์ดที่นั่งไปด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อาการปลอดภัยแล้ว
วันนี้(17 เม.ย.)เมื่อเวลา 08.30 น. นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระพยาบาล ได้แถลงถึงอาการบาดเจ็บของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้า และอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงกระหน่ำรถยนต์เกือบ 100 นัด ที่บริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม ถ.สามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ขณะเดินทางเพื่อมาดำเนินรายการ กู๊ดมอร์นิ่ง ไทยแลนด์ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 ราย มารักษาตัวที่ รพ.วชิระ 2 ราย คือ นายสนธิ และนายวายุภักดิ์ มัลคละสินธุ์ อายุ 40 ส่วน นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถอยู่ รพ.มิชชั่น สำหรับอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ นายวายุภักดิ์ มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า หูข้างขวา มีบาดแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าแข้ง ขาทั้งสองข้าง รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง อาการไม่น่าเป็นห่วง หากรักษาแผลเสร็จก็กลับบ้านได้
นายแพทย์ชัยวัน กล่าวว่า สำหรับนายสนธิ นั้นมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าด้านขวายาว 3 ซม. บาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยทั่วไปบริเวณข้อมือขวา และบาดแผลถลอกเล็กน้อยทั่วไปบริเวณลำตัวด้านข้างแถบขวา รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ทั้งนี้บาดแผลที่ศีรษะจากการเอ็กซเรย์พบเศษโลหะฝังอยู่ในกะโหลกลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร
"ขณะนี้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาทกำลังทำการผ่าตัดโดยเข้าห้องผ่าไปเมื่อเวลา 09.00 น.และจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการผ่าตัดรักษา คาดว่าคนไข้น่าจะปลอดภัยซึ่งกรณีที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะถือว่าอันตรายทุกรายทางคณะแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่"นายแพทย์ชัยวัน กล่าว
นายแพทย์วันชัย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในการักษาความปลอดภัยนั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ส่งตำรวจมาดูแลความปลอดภัยและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ ทั้งนี้หลังผ่าตัดแล้วต้องพักฟื้นที่ห้องไอซียู ดูอาการเนื่องจากคนไข้อายุมากอาจมีโรคแทรกซ้อนตามมาจึงต้องดูอาการอย่างมใกล้ชิด ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนั้นต้องขอความกรุณาว่าอย่าเพิ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาลในช่วงนี้เนื่องจากจะทำให้ตำรวจทำงานลำบากเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นใครและผู้ป่วยจะไม่ได้รับความปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยอาการดีขึ้นแล้วก็จะมีการแถลงข่าวด้วยตัวเองอีกครั้ง
วันนี้(17 เม.ย.)เมื่อเวลา 08.30 น. นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระพยาบาล ได้แถลงถึงอาการบาดเจ็บของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้า และอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงกระหน่ำรถยนต์เกือบ 100 นัด ที่บริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม ถ.สามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ขณะเดินทางเพื่อมาดำเนินรายการ กู๊ดมอร์นิ่ง ไทยแลนด์ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 ราย มารักษาตัวที่ รพ.วชิระ 2 ราย คือ นายสนธิ และนายวายุภักดิ์ มัลคละสินธุ์ อายุ 40 ส่วน นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถอยู่ รพ.มิชชั่น สำหรับอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ นายวายุภักดิ์ มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า หูข้างขวา มีบาดแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าแข้ง ขาทั้งสองข้าง รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง อาการไม่น่าเป็นห่วง หากรักษาแผลเสร็จก็กลับบ้านได้
นายแพทย์ชัยวัน กล่าวว่า สำหรับนายสนธิ นั้นมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าด้านขวายาว 3 ซม. บาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยทั่วไปบริเวณข้อมือขวา และบาดแผลถลอกเล็กน้อยทั่วไปบริเวณลำตัวด้านข้างแถบขวา รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ทั้งนี้บาดแผลที่ศีรษะจากการเอ็กซเรย์พบเศษโลหะฝังอยู่ในกะโหลกลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร
"ขณะนี้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาทกำลังทำการผ่าตัดโดยเข้าห้องผ่าไปเมื่อเวลา 09.00 น.และจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการผ่าตัดรักษา คาดว่าคนไข้น่าจะปลอดภัยซึ่งกรณีที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะถือว่าอันตรายทุกรายทางคณะแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่"นายแพทย์ชัยวัน กล่าว
นายแพทย์วันชัย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในการักษาความปลอดภัยนั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ส่งตำรวจมาดูแลความปลอดภัยและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ ทั้งนี้หลังผ่าตัดแล้วต้องพักฟื้นที่ห้องไอซียู ดูอาการเนื่องจากคนไข้อายุมากอาจมีโรคแทรกซ้อนตามมาจึงต้องดูอาการอย่างมใกล้ชิด ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนั้นต้องขอความกรุณาว่าอย่าเพิ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาลในช่วงนี้เนื่องจากจะทำให้ตำรวจทำงานลำบากเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นใครและผู้ป่วยจะไม่ได้รับความปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยอาการดีขึ้นแล้วก็จะมีการแถลงข่าวด้วยตัวเองอีกครั้ง